บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพและบริษัทเทคโนโลยีสอดแนมจีน รวมทั้งหน่วยงานรัฐหลายแห่งของจีน กำลังเผชิญกับมาตรการลงโทษครั้งใหม่จากสหรัฐฯ เหตุจากข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
เมื่อวันพฤหัสบดี รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่า มาตรการลงโทษใหม่นี้จะทำให้บริษัทอเมริกันไม่สามารถขายสินค้าแก่สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารของจีน และสถาบันวิจัยในเครือ 11 แห่งที่พัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพได้
รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า จีนใช้เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อกดขี่ชาวอุยกูร์ โดยจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวและโต้กลับว่า “มาตรการความมั่นคง” ใดๆ ก็ตามที่ใช้กับชาวอุยกูร์นั้น เป็นไปเพื่อป้องกันการก่อการร้าย
นางจีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า จีนใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อพยายามควบคุมประชาชนของตนเอง และใช้กดขี่กลุ่มชาติพันธุ์และกลุ่มศาสนาที่เป็นชนกลุ่มน้อย สหรัฐฯ จึงไม่สามารถอนุญาตให้สินค้า เทคโนโลยี และซอฟต์แวร์ของสหรัฐฯ ที่สนับสนุนวิทยาศาสตร์การแพทย์และนวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ ถูกนำไปใช้ในทางที่ขัดต่อความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ
ท่าทีครั้งนี้มีขึ้นไม่นานหลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในกรุงปักกิ่งเนื่องจากมี “การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและการทารุณในเขตซินเจียง”
ทำเนียบขาวยังระบุด้วยว่า สหรัฐฯ สนับสนุนกฎหมายที่เสนอโดยพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน ที่จะห้ามการนำเข้าสินค้าที่ผลิตในเขตซินเจียงจนกว่าจีนจะพิสูจน์ได้ว่า สินค้าดังกล่าวไม่ได้ผลิตโดยแรงงานบังคับ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพุธ รอน ไวเดน วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ไม่สนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากต้องการให้ร่างกฎหมายดังกล่าวผูกติดกับโครงการคืนภาษีบุตรภาคต่อขยายที่กำลังจะหมดอายุลง
(ข้อมูลบางส่วนจากสำนักข่าวเอพี)