ธุรกิจภัตตาคารร้านอาหารในสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤตการระบาดของโคโรนาไวรัส กำลังจะได้รับการสนับสนุนให้ฟื้นคืนชีพจากแผนช่วยเหลือทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน เตรียมที่จะออกใช้งานในเร็วๆ นี้
ร่างกฎหมายที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติรับรองในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังวุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติผ่านออกมาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีรายละเอียดเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กผ่านโครงการ Paycheck Protection Program หรือ PPP ที่นำเสนอเงินกระตุ้นเศรษฐกิจและสวัสดิการว่างงาน
สำนักข่าว เอพี รายงานว่า ธุรกิจภัตตาคารร้านอาหารจะกลายมาเป็นผู้ที่ได้รับส่วนแบ่งความช่วยเหลือโดยตรงก้อนใหญ่ที่สุด ด้วยงบประมาณ 28,600 ล้านดอลลาร์ ที่มีจุดประสงค์เพื่อประคับประคองผู้ประกอบการที่สูญเสียรายได้หนักในช่วงปีที่ผ่านมา
รายงานข่าวระบุว่า ร่างกฎหมายนี้จะอนุมัติจำนวนเงินช่วยเหลือสูงสุดสำหรับธุรกิจร้านอาหารไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์ต่อบริษัท และไม่เกิน 5 ล้านดอลลาร์ต่อสาขา โดยมีเงื่อนไขว่า บริษัทเหล่านี้ไม่มีสาขามากกว่า 20 แห่ง และต้องไม่ใช่บริษัทที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยรายละเอียดในร่างกฎหมายนี้ยังมีการจัดสรรงบ 5,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับร้านอาหารที่มีขนาดเล็กที่สุด ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 500,000 ดอลลาร์อีกด้วย
เสียงตอบรับจากภาคธุรกิจนี้มีแต่เสียงยินดี โดยสมาคมภัตตาคารร้านอาหารแห่งชาติ (National Restaurant Association) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ประกอบด้วยผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เปิดเผยด้วยว่า วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้เพิ่มเงินอีก 3,600 ล้านดอลลาร์ให้กับงบดั้งเดิมจำนวน 25,000 ล้านดอลลาร์ที่ระบุไว้ในร่างกฎหมายฉบับแรก แม้ว่า งบรวมล่าสุดนี้จะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1 ใน 10 ของรายได้จริงที่อุตสาหกรรมนี้สูญเสียไปในช่วงเกิดวิกฤติก็ตาม
รายงานข่าวอ้างข้อมูลจาก National Restaurant Association และระบุว่า ภัตตาคารร้านอาหารในสหรัฐฯ กว่า 110,000 แห่งต้องปิดตัวลงชั่วคราวหรือเป็นการถาวร ณ วันที่ 1 ธันวาคมของปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 17 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจที่เปิดให้บริการอยู่ก่อนเกิดวิกฤติ