กองกำลังทหารเข้าควบคุมสถานการณ์ในกรุงวอชิงตัน ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศความพร้อมใช้กำลังทหารในการเข้าควบคุมและยุติเหตุประท้วงที่เกิดความวุ่นวายรุนแรงทั่วสหรัฐฯ ซึ่งให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นทันที
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อดัม สมิทธ์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการสภาด้านการกองกำลังทหาร ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า การตัดสินใจเตรียมใช้อำนาจตามกฎหมาย Insurrection Act และการใช้วาทะที่เหมือนเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในกองไฟ พิสูจน์แล้วว่า ปธน.ทรัมป์ ไม่สามารถนำพาประเทศผ่านช่วงเวลาอันสับสนวุ่นวายและรวมคนในประเทศให้เป็นหนึ่งได้ ในทางกลับกัน ผู้นำสหรัฐฯ ยังตัดสินใจที่จะใช้กำลังเพื่อจัดการกับผู้ที่ตนมองว่าเป็นภัยด้วยซ้ำ
รายงานข่าว อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม ระบุว่า ประธานาธิบดีได้สั่งให้กองทัพส่งกองกำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารเข้าพื้นที่กรุงวอชิงตันได้ โดยพื้นที่เมืองหลวงสหรัฐฯ นี้เป็นเขตอำนาจแห่งเดียวในประเทศที่ทหารสามารถเดินทางเข้ามาปฏิบัติการได้โดยไม่ต้องขอความเห็นจากผู้ว่าการรัฐ
ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รัฐ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่แนชันแนลการ์ดจำนวน 1,200 นายได้เดินทางเข้ากรุงวอชิงตัน ขณะที่มีการส่งเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมอีก 600-800 นายพร้อมอาวุธร้ายแรง เข้าพื้นที่ใน 6 รัฐที่มีการชุมนุมประท้วงและรายงานความรุนแรงต่อเนื่อง
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งรวมถึงสารวัตรทหารและเจ้าหน้าที่หน่วยวิศวกร ถูกสั่งการให้เตรียมพร้อมรับคำสั่งนอกเขตกรุงวอชิงตัน และพร้อมยกพลเข้าเมืองทันทีที่จำเป็น
ในช่วงดึกของคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์ แบล็คฮอว์ก ของกองทัพสหรัฐฯ จำนวนหนึ่งลำ ได้ทำการบินเหนืออาคารต่างๆ ในเขตไชน่าทาวน์ของกรุงวอชิงตัน ส่งผลให้ผู้ชุมนุมต้องแตกกลุ่มกระจัดกระจายออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงฝุ่นและเศษขยะที่ปลิวว่อนไปทั่วเนื่องจากแรงลมจากใบพัดของเฮลิคอปเตอร์