ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่มีความลับทางการเงินกับคนรัก คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เพราะจากการศึกษาจากเว็บไซต์ CreditCards.com พบว่าชาวอเมริกัน 44% ยอมรับว่า พวกเขาปิดบังข้อมูลบัญชีธนาคารและภาระหนี้สิน รวมทั้งใช้จ่ายเงินมากกว่าที่คนรักของพวกเขาจะรู้เสียอีก
การศึกษานี้สอบถามความเห็นชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ 2,501 คน โดย 1,378 คน ในการสำรวจนี้ แต่งงานแล้ว หรือใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับคนรักโดยไม่จดทะเบียน พบว่า 34% ของกลุ่มที่มีคู่ ยอมรับว่า พวกเขาใช้จ่ายเงินมากกว่าที่คนรักจะยอมรับได้ ส่วนอีก 17% ยอมรับว่าพวกเขามีบัญชีลับที่ไม่บอกคนรัก ทั้งบัตรเครดิต เงินฝาก และอีก 12% ในการสำรวจ มีภาระหนี้ที่ไม่ยอมบอกคู่รักด้วย
ในการสำรวจ พบว่า 47% ของผู้ชายอเมริกันในการสำรวจนี้ ปกปิดเรื่องการเงินกับคนรัก ขณะที่ผู้หญิงอเมริกันราว 43% ปิดบังข้อมูลการเงินกับคู่ครอง
ในการศึกษานี้ จำแนกออกไปอีกว่า ชาวอเมริกันกลุ่ม Millennial ที่มีอายุ 24-39 ปีในปัจจุบัน มีแนวโน้มจะนอกใจทางการเงินกับคนรัก มากกว่าคนรุ่นก่อนทั้ง Gen X และ baby boomer โดยเหตุผลสำคัญที่คนกลุ่มนี้เลือกจะมีอิสระทางการเงินจากคู่ครองก็คือ พวกเขารู้สึกหวงแหนพื้นที่ส่วนตัวทางการเงินมากกว่าคนรุ่นก่อนๆ โดย 57% ของคนรุ่น Millennial ปิดบังข้อมูลการเงินกับคนรัก ส่วนคนรุ่น Gen X 45% ทำแบบนั้น และมีคนรุ่น baby boomer ราว 37% ที่มีความลับทางการเงินกับคู่ครอง
แล้วเหตุผลอะไรที่ทำให้คนเรา นอกใจทางการเงิน กับคนรักไปเสียได้? 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสำรวจ บอกว่า พวกเขามองเรื่องการเงินเป็นเรื่องส่วนตัว หรือเลือกที่จะเป็นฝ่ายควบคุมการเงินของตัวเอง และราว 21% ในการสำรวจ ยอมรับว่าเลือกจะไม่บอกสถานะการเงินให้คนรักรู้ เพราะกลัวจะส่งผลร้ายตามมาหากความสัมพันธ์ไม่ยั่งยืนตลอดรอดฝั่ง
เท็ด รอสส์แมน นักวิเคราะห์ด้านการเงินจาก CreditCards.com บอกว่า การพูดถึงเรื่องเงินทองเหมือนเป็นสิ่งต้องห้าม เพราะคนเราเลือกจะพูดเรื่องน่าอึดอัดอย่างประเด็นศาสนาหรือการเมืองมากกว่าจะพูดเรื่องสถานะการเงินกัน
เท็ด เตือนว่า การปกปิดความลับเรื่องการเงินไว้กับตัว จะขัดขวางโอกาสการวางแผนการเงินของพวกเขาในอนาคต รวมทั้งทำให้ความเชื่อมั่นระหว่างคนรักลดลงไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้ตรงกับการสำรวจที่พบว่า กว่า 25% ของชาวอเมริกัน มองว่า การนอกใจทางการเงินเลวร้ายกว่าการนอกใจจริงๆเสียอีก
เมื่อแบ่งตามฐานรายได้ในการสำรวจยังพบด้วยว่า ผู้ที่มีรายได้สูงๆ คืออย่างน้อย 80,000 ดอลลาร์ต่อปี ราว 39% เลือกที่จะไม่บอกฐานะการเงินกับคนรัก ส่วน 20% คนที่มีรายได้น้อย จะปกปิดฐานะการเงินของตัวเอง โดยเหตุผลที่เหมือนกันก็คือพวกเขาอายที่จะเปิดเผยพฤติกรรมการใช้เงินกับคนรัก
นักวิเคราะห์ด้านการเงินจาก CreditCards.com ทิ้งท้ายไว้ว่า การเปิดใจเรื่องการเงินไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว น่าอึดอัด หรือน่าอายอีกต่อไป หากคุณตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตที่เหลือกับคนๆนั้นแล้ว การเปิดใจที่จะคุยกันได้ทุกเรื่องเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องลองเปิดอกคุยกันอย่างจริงใจ ส่วนจะรับได้ไหมก็ว่ากันอีกที ...
