มาตรการภาษีชุดใหม่ที่สหรัฐฯ และจีนนำมาใช้ตอบโต้กันและกัน เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วในวันจันทร์
สหรัฐฯ กำหนดภาษีชุดใหม่ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ารวม 200,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน ขณะที่จีนก็เร่ิมมาตรการตอบโต้ด้านภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ ในวันเดียวกัน
ภาษีชุดใหม่ของสหรัฐฯ ครอบคลุมถึงสินค้าหลายพันชนิดของจีน รวมถึง สินค้าอิเลกทรอนิกส์ อาหาร เครื่องมือและเครื่องใช้ภายในบ้านต่างๆ โดยเริ่มจากระดับอัตราภาษีที่ 10% ก่อนที่จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็น 25% ในวันที่ 1 มกราคม ปีหน้า
อย่างไรก็ตาม มีสินค้าบางชนิดที่ได้รับการยกเว้นด้านภาษี เช่น นาฬิกาสมาร์ทวอท์ช อุปกรณ์บลูทูธ และที่นั่งในรถยนต์สำหรับเด็กทารก
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ (Mike Pompeo) ให้สัมภาษณ์กับเครือข่าย Fox News ในวันอาทิตย์ว่า สหรัฐฯ จะได้รับชัยชนะในการทำสงครามการค้ากับจีน และจะได้ผลลัพธ์ที่จะทำให้จีนต้องทำตามกฎที่ถูกต้องทางการค้าโลก นั่นคือ หากจีนต้องการเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ จีนต้องไม่ใช้วิธีขโมยทรัพย์สินทางปัญญา
ทางด้านรัฐบาลปักกิ่งมีแถลงการณ์ในวันจันทร์ว่า รัฐบาลกรุงวอชิงตันใช้มาตรการทางภาษีเพื่อข่มขู่ประเทศที่ไม่ยอมทำตามความปรารถนาทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้เก็บภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มไปแล้วเป็นมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ ในมูลค่าที่เท่าเทียมกัน
และเมื่อต้นเดือนนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ขู่ว่าจะเก็บภาษีต่อสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 267,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะครอบคลุมถึงสินค้าทุกประเภทที่จีนส่งมาขายในตลาดอเมริกา