เมื่อวานนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการขาดดุลงบประมาณเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณใหม่ อยู่ที่ระดับ 63,200 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค. ปีที่แล้วเกือบ 38% ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักสำหรับการเริ่มปีงบประมาณ 2018 ของรัฐบาลสหรัฐฯ
โดยยอดขาดดุลที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น 4,000 ล้านดอลลาร์สำหรับกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ (Homeland Security) และค่าใช้จ่ายสำหรับบรรเทาทุกข์จากเฮอริเคนใหญ่สองลูกที่ถล่มภาคใต้ของสหรัฐฯ เมื่อสองเดือนที่แล้ว
นักวิเคราะห์คาดว่า ยอดขาดดุลงบประมาณในปีงบประมาณนี้ทั้งปี จะเพิ่มขึ้นกว่าปีงบประมาณที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 666,000 ล้านดอลลาร์ โดยปัจจัยหลักมาจากข้อเสนอกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับใหม่ของ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์
นักเศรษฐศาสตร์ของ JPMorgan Chase คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลในปีงบประมาณ 2018 ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายนปีหน้า จะอยู่ที่ระดับ 675,000 ล้านดอลลาร์ และจะเพิ่มเป็น 909,000 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณหน้า