ปัจจุบันค่าเงินยูโรกำลังตกต่ำใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปีเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์ และนักเศรษฐศาสตร์ต่างเชื่อว่าความแตกต่างระหว่างค่าเงินยูโรกับดอลล่าร์จะยิ่งเพิ่มขึ้น เนื่องจากการชะลอตัวของ ศก.ยุโรป และการฟื้นตัวของ ศก.สหรัฐฯ
เวลานี้เจ้าหน้าที่ยุโรปกำลังพิจารณานำมาตรการกระตุ้น ศก.มาใช้ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้ภาคธุรกิจกู้เงินไปลงทุนได้ง่ายขึ้น แต่อีกด้านหนึ่งนักลงทุนในยุโรปก็จะพากันหอบเงินไปลงทุนในต่างประเทศซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าเช่นกัน ซึ่งนั่นจะทำให้ความต้องการเงินยูโรลดลง และค่าเงินยูโรก็จะยิ่งลดลงต่อไปอีก
ในทางกลับกัน การที่ ศก.สหรัฐฯกำลังฟื้นตัว จึงมีแนวโน้มว่าระบบธนาคารกลางสหรัฐฯอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ก็จะทำให้มีนักลงทุนนำเงินมาลงทุนในอเมริกามากขึ้น และค่าเงินดอลล่าร์ก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่า เมื่อเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นจะทำให้เกิดแรงต้านต่อการเติบโตของศก.อเมริกา นั่นคือภาคการส่งออกจะชะลอตัวลง ส่วนภาคการส่งออกของยุโรปจะขยายตัวเมื่อค่าเงินยูโรอ่อนตัว
และจะทำให้ในที่สุดแล้ว ศก.ยุโรปจะเริ่มฟื้นตัว และเงินยูโรกับเงินดอลล่าร์ที่มีค่าแตกต่างกันอย่างมากในขณะนี้ ก็จะเริ่มขยับเข้าใกล้กันอีกครั้ง