ที่รัฐยูทาห์ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐ มีการใช้โดรนบินเข้าไปใกล้ๆ กับบริเวณหิมะถล่มเพื่อดูภาพหิมะที่ตกลงมาจากภูเขา
ส่วนทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐเช่นที่นอร์ธ แคโรไลน่า มีการใช้โดรนในการค้นหานกที่ใกล้จะสูญพันธุ์ และค้นหาสถานที่ที่นกเหล่านั้นใช้เลี้ยงดูลูกของพวกมัน
ข้อมูลจากสมาคม American Association of State Highway และกรมขนส่งหรือ AASHTO ชี้ว่าหน่วยงานการขนส่งสาธารณะของสหรัฐฯ ใช้โดรนกันเกือบทุกรัฐ
รายงานที่เผยแพร่ออกมาเมื่อเร็วๆ ชี้ว่ามีการใช้โดรนเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าในปัจจุบัน 36 รัฐของสหรัฐฯ มีการจ้างนักบินโดรนที่มีใบรับรอง เพื่อบังคับโดรนในการทำงานด้านต่างๆ
Jim Tymon เป็นผู้อำนวยการบริหารของสมาคม American Association of State Highway ชี้ว่า ค่าใช้จ่ายของโดรนลดลงอย่างมากอย่างเห็นได้ชัด ในขณะประสิทธิภาพของโดรนก็เพิ่มขึ้นอย่างมากด้วยเช่นกัน
Jared Esselman ผู้อำนวยการการบินของกรมขนส่งรัฐยูทาห์กล่าวว่า โดรนมีประโยชน์สำหรับงานทุกประเภท ไม่เพียงแต่คาดคะเนหิมะถล่มได้เท่านั้น แต่ยังคาดคะเนการที่โคลนถล่มและน้ำไหลบ่าเมื่อหิมะละลายได้อีกด้วย และว่า โดรนเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับงานอันตรายหรืองานที่เจอกับความสกปรก
ขณะที่ Basil Yap ผู้จัดการโปรแกรมระบบอากาศยานไร้คนขับที่กรมการขนส่งของรัฐรายงานว่า ที่รัฐนอร์ธ แคโรไลน่า มีการใช้โดรนค้นหารังของนกที่ใกล้จะสูญพันธุ์เช่นนกหัวขวานแดง เป็นต้น
หลายๆ รัฐเริ่มที่จะสำรวจหาวิธีการสร้างกฎหมายเพื่อควบคุมการจราจรโดรนของภาคเอกชนที่กำลังจะมีมากขึ้นในอนาคต อย่างรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐโอไฮโอกำลังสร้างระบบควบคุมการจราจรทางอากาศที่ใช้ชื่อว่า SkyVision ซึ่งจะช่วยให้โดรนสามารถรับรู้และหลีกเลี่ยงเครื่องบินลำอื่นๆ ที่กำลังบินอยู่ได้