กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ พยายามลดความสำคัญของการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ โดยระบุว่ายังมีโอกาสที่จะบรรลุข้อตกลงเรื่องการทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดอาวุธนิวเคลียร์
เมื่อวันเสาร์ สื่อของทางการเกาหลีเหนือ KCNA รายงานว่ากองทัพเกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงจรวดและขีปนาวุธนำวิถีพิสัยใกล้หลายครั้ง ซึ่งลอยไปตกนอกชายฝั่งเกาหลีเหนือ โดยระบุด้วยว่า ผู้นำคิม จอง อึน เป็นผู้สั่งการโดยตรงให้มีการทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้
และในวันอาทิตย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ กล่าวกับรายการข่าว "Fox News Sunday" ว่าวิถีการยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ครั้งล่าสุดของกรุงเปียงยางนั้นพุ่งไปตกในทะเลนอกชายฝั่งเกาหลีเหนือเอง และไม่ได้ลอยข้ามประเทศใดเหมือนครั้งก่อนๆ
รัฐมนตรีพอมเพโอ กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า ยังคงมีโอกาสที่จะยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และหวังว่าการทดสอบขีปนาวุธดังกล่าวจะไม่เป็นอุปสรรคของเป้าหมายสำคัญนี้
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือได้พยายามติดต่อกันเพื่อหาแนวทางจัดทำข้อตกลงที่จะนำไปสู่การยุติโครงการนิวเคลียร์ของเปียงยาง หลังจากที่การเจรจารอบสองระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ และผู้นำคิม จอง อึน ที่กรุงฮานอยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ประสบความส้มเหลว
ด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันเสาร์ว่า "ผู้นำคิมทราบดีว่าเกาหลีเหนือมีศักยภาพทางเศรษฐกิจในระดับสูง ซึ่งตนจะไม่เข้าไปยุ่งหรือสกัดกั้นในเรื่องนี้ และผู้นำคิมยังทราบดีว่าตนยินดีให้ความร่วมมือ และไม่ต้องการทำลายสัญญาที่ให้ไว้ต่อกัน ดังนั้น ข้อตกลงกับเกาหลีเหนือจะต้องเกิดขึ้น"
ขณะเดียวกัน นางซินเธีย วอร์มเบียร์ มารดาของนายอ็อตโต้ วอร์มเบียร์ นักศึกษาชาวอเมริกันที่เสียชีวิตหลังจากถูกจับกุมที่เกาหลีเหนือเป็นเวลาหลายเดือน กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สมควรทำข้อตกลงใดๆ กับเกาหลีเหนือ เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลเปียงยางไม่เคยพูดความจริง
เธอยังเรียกรัฐบาลของผู้นำคิม จอง อึน ว่าเป็น "ปีศาจร้าย" และขอให้รัฐบาลอเมริกันใช้มาตรการกดดันเกาหลีเหนือต่อไป เพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้เกาหลีเหนือยินยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อย่างไรก็ตาม เธอเกรงว่ารัฐบาล ปธน.ทรัมป์ อาจกำลังจะยอมผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว
