ทำเนียบขาวเปิดเผยในวันนี้ว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ จะขยายการสืบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี ค.ศ. 2016 โดยจะรวมการสอบสวนต่อคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ว่า สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ (FBI) ส่งคนไปสอดแนมการหาเสียงเลือกตั้งของตน
คำประกาศของทำเนียบขาวครั้งนี้มีออกมาหลังจากที่ ปธน.ทรัมป์ พบปะกับ รองรัฐมนตรียุติธรรม ร้อด โรเซนสไตน์ (Rod Rosenstein) และ ผอ.เอฟบีไอ คริสโตเฟอร์ เวรย์ (Christopher Wray)
ทำเนียบขาวกล่าวด้วยว่า กระทรวงยุติธรรมจะทำงานร่วมกับผู้นำในรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อทบทวนเอกสารลับซึ่งเกี่ยวข้องกับคำอ้างของ ปธน.ทรัมป์ เรื่องที่ว่าคณะหาเสียงของเขาถูกสอดแนม
ปธน.ทรัมป์ กล่าวหาว่า ในสมัยประธานาธิบดีโอบาม่า เอฟบีไอได้ส่งคนไปสอดแนมคณะหาเสียงเลือกตั้งของตน 'เพื่อประโยชน์ทางการเมือง' และว่าถือเป็นความอื้อฉาวทางการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า บทบาทที่แท้จริงของเจ้าหน้าที่ที่ถูกส่งไปทำงานดังกล่าวนั้น คือการพูดคุยกับที่ปรึกษาคณะหาเสียงของทรัมป์สองคนที่ถูกกล่าวหาว่าติดต่อกับรัสเซีย ซึ่งไม่มีหลักฐานว่าเอฟบีไปทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด
สื่อหลายสำนักระบุว่า ผู้ที่สืบข้อมูลดังกล่าวนั้น คือนายสตีฟาน ฮาลเปอร์ (Stefan Halper) ชาวอเมริกันวัย 73 ปี ซึ่งเป็นศาตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในอังกฤษ ผู้เคยทำงานให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ที่นำโดยพรรครีพับลิพันมาหลายสิบปี
อัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ (Robert Mueller) คือผู้ที่กำลังสืบสวนข้อกล่าวหาว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมทั้งข้อกล่าวหาว่า ปธน.ทรัมป์ ขัดขวางกระบวนการยุติธรรมด้วยการปลด ผอ.เอฟบีไอ นายเจมส์ โคมมีย์ (James Comey) หรือไม่