ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รัฐสภาสหรัฐฯ รับรองทรัมป์ชนะเลือกตั้ง ก่อนปฏิญาณตน 20 ม.ค.


รัฐสภาสหรัฐฯ ลงมติในวันจันทร์ที่ 6 ม.ค. 2025 รับรองชัยชนะของโดนัลด์  ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน
รัฐสภาสหรัฐฯ ลงมติในวันจันทร์ที่ 6 ม.ค. 2025 รับรองชัยชนะของโดนัลด์  ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน

รัฐสภาสหรัฐฯ ลงมติในวันจันทร์ รับรองชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นการปูทางสู่พิธีปฏิญาณตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 มกราคมนี้

ภายใต้กฎหมายของสหรัฐฯ รองประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งจะเป็นประธานในการประชุมเพื่อนับคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) จากทั้ง 50 รัฐ ซึ่งหมายความว่า รองปธน.คามาลา แฮร์ริส จะต้องเป็นผู้รับรองชัยชนะของทรัมป์ และความพ่ายแพ้ของตนเอง

ในการรับรองผลในครั้งนี้ รองปธน.แฮร์ริส กล่าวถึงหน้าที่ของตนว่า "เป็นพันธะกิจอันศักดิ์สิทธิ์" เพื่อรับรองว่าจะมีการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติ

โดยในพิธีรับรองในวันจันทร์ แฮร์ริสได้ส่งผ่านเอกสารรับรองผลการเลือกตั้งในแต่ละรัฐให้แก่สมาชิกรัฐสภาสี่คนซึ่งทำหน้าที่อ่านผลเหล่านั้น โดยทรัมป์ได้รับชัยชนะด้วยจำนวนคณะผู้เลือกตั้ง 312 - 226

หลังกระบวนการรับรองผลเสร็จสิ้น แฮร์ริสกล่าวว่า "วันนี้ ประชาธิปไตยในอเมริกายังยืนหยัดต่อไป"

นอกจากแฮร์ริสแล้ว มีรองปธน.สหรัฐฯ ไม่กี่คนที่เคยนั่งเป็นประธานในพิธีนับคะแนนและรับรองความพ่ายแพ้ของตนเอง รวมทั้ง ริชาร์ด นิกสัน ที่พ่ายแพ้ให้แก่จอห์น เอฟ เคนเนดี เมื่อปี 1960 และ อัล กอร์ ที่แพ้ให้กับ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ในการเลือกตั้งที่ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดเมื่อปี 2000

เกิดอะไรขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว?

ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อน ทรัมป์เป็นฝ่ายไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่ตนพ่ายแพ้แก่โจ ไบเดน และนำไปสู่เหตุการณ์จลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในวันที่ 6 มกราคม 2021 เมื่อบรรดาผู้สนับสนุนทรัมป์ราว 2,000 คนพากันบุกรุกรัฐสภาเพื่อขัดขวางกระบวนการรับรองชัยชนะของไบเดน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก และสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่ออาคารสำคัญแห่งนี้

ในครั้งนั้น ทรัมป์ต้องการให้รองปธน.ของตน คือ ไมค์ เพนซ์ ปฏิเสธการนับคะแนนจากบางรัฐที่เป็นรัฐสมรภูมิ ซึ่งทรัมป์กล่าวหาอย่างผิด ๆ ว่ามีการทุจริตเลือกตั้งและโกงผลการนับคะแนน แต่เพนซ์ไม่ยอมทำตามที่ทรัมป์ร้องขอ

ต่อมาทรัมป์กล่าวว่า "ไมค์ เพนซ์ ไร้ซึ่งความกล้าหาญในการทำตามสิ่งที่สมควรกระทำ"

หลังจากการจลาจลที่รัฐสภาสิ้นสุดลง ไมค์ เพนซ์ กลับมาทำหน้าที่ประธานในการรับรองผลการเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่งเขากล่าวในอีกสองปีต่อมาว่า "ผมไม่มีสิทธิคว่ำผลการเลือกตั้ง" และกล่าวหาทรัมป์ว่าเป็นผู้ก่อการจลาจลในครั้งนั้น ซึ่งคำพูดของทรัมป์ต่อบรรดาผู้สนับสนุน "สร้างอันตรายต่อครอบครัวของผมและทุกคนที่อยู่ที่รัฐสภาในวันนั้น และผมรู้ว่าประวัติศาสตร์จะทำให้ทรัมป์ต้องชดใช้"

เกิดอะไรขึ้นกับบรรดาผู้บุกรุกรัฐสภาเมื่อ 4 ปีก่อน?

ทั้งนี้ เหตุการณ์ 6 ม.ค. 2021 ดูเหมือนจะย้อนกลับมามีบทบาทอีกครั้งในการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของทรัมป์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้ตั้งข้อหาและดำเนินคดีกับผู้บุกรุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯเมื่อ 4 ปีก่อน รวมแล้วเกือบ 1,600 คน ในจำนวนนี้หลายคนได้รับโทษจำคุกระยะสั้นไปแล้ว และมีอีกหลายคนที่ยังต้องถูกตัดสินความผิดจากกรณีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ และอาจต้องโทษจำคุกหลายปีเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เรียกผู้สนับสนุนตนที่ก่อเหตุในวันนั้นว่า "ผู้รักชาติ" และ "ผู้ตกเป็นเชลย" พร้อมกล่าวว่า หากตนกลับมาเป็นประธานาธิบดี จะอภัยโทษให้กับผู้ที่ถูกจับกุมและตัดสินว่ามีความผิดหลายคนตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม ว่าที่ปธน.ผู้นี้ยังมิได้ระบุชัดเจนว่า มีแผนอภัยโทษถ้วนหน้าให้กับทุกคนที่ถูกตั้งข้อหาจากเหตุการณ์เมื่อ 4 ปีก่อนหรือไม่ หรือจะเลือกอภัยโทษให้กับบางคนขึ้นอยู่กับแต่ละสถานการณ์และข้อกล่าวหาของแต่ละคนเท่านั้น

ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เหตุการณ์จลาจลเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 นั้น ถือเป็น "หนึ่งในวันที่ยากลำบากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา" พร้อมยืนยันว่า "เราจำเป็นต้องกลับสู่หลักการดั้งเดิม คือการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติ"

ไบเดนกล่าวด้วยว่า สิ่งที่ทรัมป์ทำไว้เมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งรวมถึงการยืนกรานไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่ทรัมป์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้นั้น "คือภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง" และหวังว่า อเมริกาจะก้าวผ่านจุดนั้นไปแล้ว

  • ที่มา: วีโอเอ
XS
SM
MD
LG