จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวในวันพุธว่าประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากนโยบายกระจายฐานการผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ และว่าบริษัทอเมริกันพร้อมที่จะอัดฉีดการลงทุนในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามการรายงานของรอยเตอร์
รมต.ไรมอนโดกล่าวที่กรุงเทพมหานครว่า “การผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์นั้นกระจุกตัวอย่างอันตรายในหนึ่งหรือสองประเทศในโลก” เธอยังเน้นย้ำด้วยว่าสหรัฐฯ จะผลักดันให้มีการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศสมาชิกกลุ่มกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (Indo-Pacific Economic Framework - IPEF)
IPEF เป็นกรอบข้อตกลงที่นำโดยสหรัฐฯ ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ประเทศในภูมิภาคมีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับจีน โดยมีชาติสมาชิกทั้งสิ้น 14 ประเทศ รวมถึงไทย
รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ ยังกล่าวด้วยว่า “เราเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้กันทั้งหมด มันเป็นประโยชน์กับทุกคน (ทั้ง) สหรัฐฯ ไทย และสมาชิก IPEF ทั้งหมด เพื่อกระจายห่วงโซ่อุปทานของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์”
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย มีกำหนดการพูดคุยกับรมต.ไรมอนโดในวันพฤหัสบดี
เมื่อปี 2022 สหรัฐฯ ได้ผ่านกฎหมาย Chips and Science ซึ่งเป็นนโยบายสาธารณะที่มอบงบประมาณ 52,700 ล้านดอลลาร์ หรือ ราว 1.9 ล้านล้านบาท ให้กับการผลิต วิจัย และพัฒนาฝีมือแรงงานด้านเซมิคอนดักเตอร์
อุตสาหกรรมด้านไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักในการดึงการลงทุนของต่างชาติ และยังเป็นภาคส่วนหลักที่นายเศรษฐาเล็งที่จะขยายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ข้อมูลจากรายงานของธนาคารไทยพาณิชย์ ในปี 2023 ระบุว่าอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไทยมีผู้เล่นรายใหญ่ คือ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลี และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งโดยมากแล้วเป็นการผลิตระดับ Back-end process หรือขั้นตอนหลังจากการสร้างคุณสมบัติหรือแผงวงจรบนแผ่นพื้นผิวซิลิคอน หรือ แผ่นเวเฟอร์แล้ว
ก่อนหน้าที่จะเดินทางไปเยือนประเทศไทย ในสัปดาห์เดียวกัน รมต.ไรมอนโดได้เดินทางไปเยือนฟิลิปปินส์ และประกาศว่าบริษัทอเมริกันมีแผนจะประกาศการลงทุนในฟิลิปปินส์เป็นจำนวนเงินมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในธุรกิจหลายประเภท เช่นยานยนต์ไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์และภาคส่วนดิจิทัล
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น