นักวิเคราะห์พากันให้ความเห็นถึงโอกาสและความท้าทายที่อดีต รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ ฮิลลารี่ คลินตันต้องเผชิญ ในเส้นทางสู่การเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีหน้า โดยประเด็นสำคัญคือการแสดงให้ประชาชนอเมริกันได้เห็นว่า เธอมีประสบการณ์เพียงพอสำหรับตำแหน่งผู้นำประเทศ ขณะเดียวกันก็มีนโยบายใหม่ที่ดีกว่าเดิม และเข้มแข็งกว่าในยุคประธานาธิบดีโอบาม่า
คุณ Lara Brown แห่งสถาบันบริหารจัดการทางการเมือง มหาวิทยาลัย George Washington ชี้ว่าเป็นเรื่องยากสำหรับอดีต รมต.คลินตัน ในการรักษาสมดุลระหว่างการปกป้องความน่าเชื่อถือในด้านการต่างประเทศของ ปธน.โอบาม่า กับการปกป้องความน่าเชื่อถือของตนเองเพื่อไม่ให้ถูกมองว่าเป็นเทอมที่ 3 ของ ปธน.โอบาม่า
ที่ผ่านมา อดีต รมต.คลินตัน แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นเดโมแครตที่มีความเข้มแข็งในด้านนโยบายต่างประเทศ เช่นเมื่อปี ค.ศ 2009 เธอสนับสนุนให้มีทหารอเมริกันประจำการในอัฟกานิสถานมากขึ้น รวมทั้งนโยบายแทรกแซงกิจการในลิเบียเมื่อปี ค.ศ 2011 นอกจากนั้นยังเป็นผู้ผลักดันให้อเมริกามีบทบาทมากขึ้นในซีเรีย รวมถึงการออกเสียงสนับสนุนให้ใช้ปฏิบัติการทางทหารในอิรักเมื่อปี ค.ศ 2002 ขณะที่ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯด้วย
เมื่อมองในด้านประสบการณ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่สมัยเป็นสุภาพสตรีหมายเลข 1 มาถึงช่วงดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาและรัฐมนตรีต่างประเทศ ไม่อาจปฏิเสธได้ว่านางฮิลลารี่ คลินตันคือหนึ่งในนักการเมืองอเมริกันที่มีประสบการณ์มากที่สุดคนหนึ่ง
แต่คุณ Stuart Rothenberg นักวิเคราะห์การเมืองจาก Rothenberg and Gonzales Political Report เชื่อว่าประสบการณ์นั้นมาพร้อมต้นทุนทางการเมือง เพราะจากนี้การทำงานทุกอย่างที่ผ่านมาของอดีต รมต.คลินตัน จะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ขณะที่นโยบายต่างประเทศทั้งหมดในยุคของ ปธน.โอบาม่า ก็จะถูกนำขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนจากฝ่ายตรงข้ามด้วยเช่นกัน
เวลานี้ บรรดาผู้ที่จะลงสมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันหลายคน ต่างพยายามขุดคุ้ยไปที่นโยบายต่างประเทศของอดีต รมต.คลินตันในช่วงปี ค.ศ 2008 -2012 เช่นการตอบสนองต่อเหตุการณ์โจมตีสถานกงสุลสหรัฐฯในเมืองเบงกาซี ลิเบีย เมื่อปี ค.ศ 2012 ซึ่งทำให้มีเจ้าหน้าที่อเมริกันเสียชีวิต 4 คน รวมถึงทูตสหรัฐฯประจำลิเบีย Christopher Stevens
เมื่อวันอาทิตย์ Jeb Bush ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา หนึ่งในตัวเต็งผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน เปิดเผยวีดิโอวิพากษ์ตำหนินโยบายต่างประเทศของ โอบาม่า-คลินตัน ว่าทำลายความสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรของสหรัฐฯหลายประเทศ และทำให้ศัตรูของสหรัฐฯเข้มแข็งขึ้น ขณะที่ ส.ว Rand Paul ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ เผยแพร่วีดิโอโจมตีอดีต รมต.คลินตัน อย่างรุนแรง
ด้านนักวิเคราะห์การเมือง Stuart Rothenberg เชื่อว่าในที่สุดแล้ว อดีต รมต.คลินตัน จะต้องพยายามทำให้ประชาชนเห็นว่า เธอมีนโยบายต่างประเทศที่เข้มแข็งกว่า ปธน.โอบาม่า เพื่อกันตัวเองออกจากคำวิพากษ์วิจารณ์ที่มีต่อนโยบายต่างประเทศของ ปธน.โอบาม่าในปัจจุบัน
ขณะที่คุณ Lara Brown แห่งมหาวิทยาลัย George Washington ชี้ว่าเวลานี้ประเด็นสำคัญที่สุดของประชาชนอเมริกันคือเรื่องเศรษฐกิจ ถึงกระนั้นก็อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่าเกิดภัยคุกคามอะไรขึ้นในโลกในช่วงก่อนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีหน้า
ผู้สื่อข่าว Sharon Behn รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง