ท่ามกลางกระแสการบริหารงานของประธานาธิบดีทรัมป์ หลากหลายนโยบายที่กำหนดลงมา ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับกลุ่มคนเข้าเมืองหรือ immigration
อย่างไรก็ดี จากการเปิดเผยล่าสุดของ หน่วยงาน USCIS จำนวนผู้เข้าพิธีสาบานตนในปี 2019 กลับพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งหน่วยงาน USCIS เอง ได้จัดพิธีสาบานตนครั้งพิเศษในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาด้วย
หน่วยงาน USCIS (U.S. Citizenship and Immigration Services) ที่ดูแลด้านวีซ่าและสถานะคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ รายงานว่าจำนวนผู้ถือสัญชาติอเมริกันรายใหม่ในช่วงปีงบประมาณ 2019 มีทั้งสิ้น 8 แสน 3 หมื่น 3 พันคน ซึ่งนับเป็นสถิติที่สูงที่สุดในรอบ 11 ปี โดยตัวเลขนี้ทำการนับจนถึงสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน หน่วยงาน USCIS ได้จัดงานพิธีสาบานตนครั้งพิเศษขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ Smithsonian’s National Museum of the American Indian ให้กับบุคคลจำนวน 60 คน ที่มีความหลากหลายทั้งด้านอายุและประเทศที่กำเนิด โดยทั้งหมดนี้รวมแล้วมาจาก 51 ประเทศ
“one Nation under God, indivisible, with liberty and justice for all.”
ในพิธี เหล่าผู้สาบานตนจะถือธงชาติสหรัฐฯที่มือด้านซ้าย ก่อนจะยกมือขวาขึ้นมาทาบที่หัวใจและกล่าวคำสาบานตนเพื่อเป็นประชาชนคนอเมริกัน นี่คือขั้นตอนสุดท้ายก่อนสถานะทางกฎหมายจะเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นประชากรสหรัฐฯ อย่างสมบูรณ์แบบ และนี่นับว่าเป็นก้าวแรกในชีวิตใหม่ของใครหลายๆ คน
แซนดร้า เอมัวห์ จากประเทศกาน่า กล่าวว่า “การได้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มีความหมายกับเธอมาก ซึ่งนี่จะเป็นโอกาสให้เธอตอบแทนพื้นแผ่นดินนี้”
สิทธิต่างๆ ที่มาพร้อมการเป็นประชากรสหรัฐฯ นั้น รวมถึงการที่สามารถพาญาติพี่น้องมาที่อเมริกาได้ อีกทั้งเปิดโอกาสในการสมัครงานหน่วยงานภาครัฐฯ รวมถึงบริษัทเอกชน แต่อีกสิทธิ์ที่หลายคนรู้สึกตื่นเต้นและเฝ้ารอ คือการลงคะแนนโหวตเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึง
ซัมรีน เอเมอ จากประเทศปากีสถานกล่าวว่า “ฉันได้เป็นพลเมืองสหรัฐฯ นับเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น...ปีหน้าจะมีการเปิดลงคะแนน และฉันจะไปโหวต”
ทางด้าน ยอว์ โอพูคู เอมาวห์ จากประเทศกาน่าบอกกับวีโอเอว่า “การถือสัญชาติเป็นอเมริกันจะช่วยให้มีโอกาสที่หลากหลาย”
เหล่าผู้สาบานตนที่เปลี่ยนสถานะเป็นคนอเมริกันล่าสุดนี้มาจากหลากหลายประเทศ เช่น ประเทศอัฟกานิสถาน และ ประเทศเยเมน เป็นต้น ทุกคนต่างมีความหวังว่าอนาคตที่สดใสจะเกิดขึ้นกับตนเองและครอบครัว พวกเขาเชื่อว่าการถือสัญชาติอเมริกันจะเปิดประตูบานใหม่ๆ ในดินแดนที่เต็มไปด้วยโอกาส
ในขณะที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์เสนอการปรับลดครั้งสำคัญ ในสิทธิ์ด้านกฎหมายและตัวเลขครอบครัวผู้อพยพเข้าเมือง รวมถึงจำกัดการรับผู้ลี้ภัยในปี พ.ศ. 2563 ให้เหลือเพียง 1หมื่น 8พันคน
ซาร่า เทเลอร์ รักษาการผู้อำนวยการเขตวอชิงตันของ USCIS บอกว่าเหตุผลหลักที่ตัวเลขนี้เพิ่มสูงขึ้น อาจจะมาจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมีขึ้น เธอกล่าวว่า “แนวโน้มการเพิ่มขึ้นนี้ มักจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี จำนวนผู้ถือสัญชาติอเมริกันรายใหม่ อยู่ในระดับที่สูงมาเป็นเวลาสองปีแล้ว และคาดว่าจำนวนดังกล่าวจะยังคงรักษาระดับที่สูงแบบนี้ต่อไป”