ทางการจีนแถลงเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ได้ทดลองยานนำส่งขีปนาวุธที่เดินทางได้เร็วกว่าเสียงครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนมิถุนายน และยืนยันว่า การทดลองที่ทำไป เป็นการดำเนินการทางวิทยาศาสตร์และไม่ได้มุ่งเป้าหมายไปที่ประเทศใดทั้งสิ้น
จีนได้ทดลองยานนำส่งขีปนาวุธมาสี่ครั้งแล้วในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ยานดังกล่าวสามารถเดินทางได้เร็วกว่าเสียงอย่างน้อยห้าเท่าตัว หรือ ที่เรียกกันว่า Mach 5
นอกจากจีนแล้ว อีก 3 ประเทศ คือ สหรัฐ รัสเซีย และอินเดีย ก็มีโครงการพัฒนาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยมุ่งหมายจะสร้างสมรรถนะในการตอบโต้ขีปนาวุธของศัตรู ดำเนินการป้องกันในอวกาศ และพัฒนาความสามารถในการโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและนำส่งอาวุธโจมตีได้อย่างรวดเร็ว
แม้รายงานจะระบุว่า จีนประสบความล้มเหลวหนึ่งครั้งในการทดลองรวมทั้งหมด 4 ครั้งด้วยกัน และข้อเท็จจริงจะบ่งชี้ว่า จีนยังล้าหลังไม่ทันสหรัฐในเรื่องนี้ นาย James Acton ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการนิวเคลียร์ และนักวิจัยอาวุโสที่สถาบัน Carnegie Endowment for International Peace ในกรุงวอชิงตัน กล่าวไว้ในที่ประชุมของรัฐสภาสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้วว่า จีนอาจพัฒนาอาวุธประเภทนี้เลยหน้าสหรัฐไปได้ในอนาคต
ทางการทหารสหรัฐได้ดำเนินการทดลองยานนำส่งขีปนาวุธเร็วกว่าเสียงมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 และประสบความสำเร็จในการทดลองครั้งที่สี่เมื่อสองปีที่แล้ว เป็นที่คาดกันว่า ทางการทหารสหรัฐอาจมียานเร็วกว่าเสียงให้ใช้ในการปฏิบัติการทางทหารได้ในช่วงระหว่าง 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า นับเป็นการเพิ่มสมรรถนะในการโจมตี
นาย Morley Stone หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของห้องปฏิบัติการทดลองของกองทัพอากาศสหรัฐ ที่ฐานทัพอากาศ Wright-Patterson ในรัฐ Ohio กล่าวว่า ความพยายามพัฒนาสมรรถนะในด้านนี้ของสหรัฐจะดำเนินต่อไป เพื่อสนองความต้องการของกองทัพ
อย่างไรก็ตาม นาย James Acton ให้ความเห็นไว้ด้วยว่า แม้เวลานี้ สหรัฐจะเป็นผู้นำในการค้นคว้าทดลองในเรื่องนี้ อาวุธเร็วกว่าเสียงของจีนก็ยังเป็นภัยคุกคามสหรัฐได้ เพราะในทางเทคนิค ไม่มีทางใดที่จะป้องกันอาวุธดังกล่าวได้สำหรับบริเวณที่กว้างขวาง และว่าวิธีเดียวที่จะทำได้ คือจะต้องระบุเป้าหมายมูลค่าสูง ซึ่งอาจจะเป็นฐานทัพสำคัญหรือสถานีเชื่อมต่อสัญญาณดาวเทียม และจัดมาตรการป้องกันเฉพาะสถานที่เหล่านั้น
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รัฐสภาสหรัฐได้กล่าวแสดงความห่วงกังวลเกี่ยวกับความก้าวหน้าของจีนในการวิจัยและพัฒนาอาวุธเร็วกว่าเสียงของจีน โดยเกรงว่าจีนจะเลยหน้าสหรัฐ หลังจากที่จีนดำเนินการทดลองยานเร็วกว่าเสียงของจีนครั้งแรกในปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐก็ยังหวังว่า การรักษาความได้เปรียบในสมรรถนะการโจมตีอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าเป้าหมายจะอยู่ในที่ใดในโลกโดยใช้อาวุธ เช่น ขีปนาวุธที่เดินทางได้เร็วกว่าเสียง จะเป็นเครื่องป้องกันมิให้ผู้ที่อาจเป็นศัตรูเป็นฝ่ายโจมตีสหรัฐก่อนได้
