โฆษกทำเนียบขาว ซาราห์ ฮัคเคอร์บี แซนเดอร์ส แถลงในวันอังคารว่า การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภากัมพูชาเมื่อวันอาทิตย์ มิได้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่แท้จริงของประชาชนชาวกัมพูชา ซึ่งทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีความกังวลในเรื่องนี้
โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่ากำลังตัดความช่วยเหลือมูลค่าราว 8 ล้าน 3 แสนดอลลาร์ที่ให้กับกัมพูชา เนื่องจากเกิดความถดถอยด้านประชาธิปไตยในกัมพูชา
ความช่วยเหลือที่จะถูกตัดนั้น รวมถึงความช่วยเหลือทั้งด้านทหารและพลเรือน แต่สหรัฐฯ จะยังคงสนับสนุนโครงการด้านสาธารณสุข การเกษตร และการเก็บกู้กับระเบิดในกัมพูชาต่อไป
ด้านรัฐบาลกัมพูชายังมิได้ออกมากล่าวถึงมาตรการตัดความช่วยเหลือของรัฐบาลอเมริกันในครั้งนี้ ขณะที่เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหรัฐฯ ชัม บุญรง กล่าวกับวีโอเอภาคภาษาเขมรว่า “ยังไม่มีความเห็นใดๆ ต่อเรื่องนี้ และต้องขอปรึกษากับทางรัฐบาลกัมพูชาก่อน”
อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตกัมพูชา กล่าวถึงการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ซึ่งทางทำเนียบขาวระบุว่าไม่โปร่งใส ว่าการเลือกตั้งนั้นดำเนินไปอย่างราบรื่น และเป็นไปตามหลักการทางประชาธิปไตยเมื่อพิจารณาจากกฎหมายของกัมพูชา และหากการเลือกตั้งดังกล่าวไม่ถูกต้อง ประชาชนก็จะเป็นฝ่ายออกมาประท้วงเอง
เมื่อสามเดือนที่แล้ว ศาลสูงกัมพูชามีคำตัดสินยุบพรรคฝ่ายค้าน Cambodia National Rescue Party (CNRP) นำไปสู่การถอนสิทธิ์ทางการเมืองของฝ่ายตรงข้ามของนายกรัฐมนตรี ฮุน เซ็น หลายพันคน และมีสมาชิกพรรคฝ่ายค้านจำนวนมากที่ต้องลี้ภัยไปต่างแดน
นายมู โซชัว อดีตรองประธานพรรค CNRP ที่ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ มีแถลงการณ์ว่า “เราต้องการเห็นประชาคมโลกร่วมมือกันกดดันรัฐบาลกัมพูชา ให้กลับคืนสู่กระบวนการทางประชาธิปไตยที่แท้จริง”
ด้าน ส.ส. อลัน โลเวนธาล (Alan Lowenthal) ประธานร่วมของกลุ่ม Congressional Cambodia Caucus ของรัฐสภาสหรัฐฯ กล่าวว่า “นายกฯ ฮุน เซ็น คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อมาตรการลงโทษของสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ที่มีต่อกัมพูชา แต่เพียงผู้เดียว”
และว่า การเลือกตั้ง ส.ว. กัมพูชาเมื่อวันอาทิตย์นั้นผิดกฎหมาย เพราะมีสมาชิกพรรคฝ่ายค้านจำนวนมากถูกข่มขู่คุกคาม คุมขัง และบางคนต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ
ส่วน ส.ส. สตีฟ แชบอท (Steve Chabot) จากพรรครีพับลิกัน กล่าวยกย่องการตัดสินใจตัดความช่วยเหลือให้กัมพูชา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ เอาจริงกับสถานการณ์ความถดถอยทางประชาธิปไตยในกัมพูชา
เมื่อเดือนที่แล้ว องค์กรสิทธิมนุษยชน Human Rights Watch รายงานว่า การปราบปรามทางการเมืองอย่างกว้างขวางรุนแรงในกัมพูชาเมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งการที่ผู้นำรัฐบาลพนมเปญแทรกแซงการทำงานของศาล ตลอดจนการปิดสื่อมวลชนอิสระต่างๆ รวมทั้ง สถานีวิทยุที่ออกอากาศรายงานของ Voice of America และ Radio Free Asia ถือเป็นการทำลายกระบวนการทางประชาธิปไตยในกัมพูชาโดยสิ้นเชิง
(ผู้สื่อข่าว Steve Herman รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)