ผู้บริหารจากสายการบินต่างๆ ในสหรัฐฯ เข้าพบเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเพื่อร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลแก่ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 และอาจต้องตกงานในเร็วๆ นี้ ถ้าหากไม่มีแผนช่วยเหลือรอบใหม่ออกมาได้ทัน
สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานในวันพฤหัสบดีตามเวลาในสหรัฐฯ ว่า มาร์ค เมโดวส์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว ร่วมประชุมกับ ซีอีโอจากสายการบินขนาดใหญ่ของประเทศ เพื่อถกประเด็นความเดือดร้อนของอุตสาหกรรมการบินเนื่องจากการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้บริหารจากสายการบินทั้งหลายเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาจากทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ยอมตกลงอนุมัติแผนช่วยเหลือรอบใหม่มูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้การรับรองด้วย
เมโดวส์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า หาก แนนซี่ เพโลซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยินดีที่จะผ่านร่างกฎหมายที่ว่า เพื่อช่วยไม่ให้คนจำนวนมากในอุตสาหกรรมการบินต้องตกงาน ปธน.ทรัมป์ จะยอมให้การสนับสนุนอย่างแน่นอน
นอกจากอุตสาหกรรมการบินแล้ว บริการด้านคมนาคมอื่นๆ เช่น ขนส่งสาธารณะ บริษัทรถโดยสาร และบริการรถไฟ Amtrak เดือดร้อนจนต้องร้องของบช่วยเหลือมูลค่านับหมื่นล้านดอลลาร์จากรัฐบาล เพื่อมาพยุงตัวจากภาวะวิกฤติของการระบาดเช่นกัน
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า ตัวแทนสายการบินไม่ได้มีข้อเสนอใหม่มายื่นให้รัฐบาลพิจารณา แต่เพียงเน้นย้ำความจำเป็นของการช่วยเหลือไม่ให้ต้องมีการเลิกจ้างงาน ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อรัฐสภาให้พิจารณาผ่านร่างกฎหมายความช่วยเหลืออีกรอบได้แล้ว
ดัก พาร์คเกอร์ ซีอีโอ ของสายการบิน อเมริกัน แอร์ไลน์ส บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ในการประชุมนี้ ทุกสายการบินเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องอนุมัติแผนช่วยเหลือโควิดรอบใหม่ให้ได้ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม โดยก่อนหน้านี้ สายการบิน อเมริกัน แอร์ไลน์ส เปิดเผยว่า หากไม่มีความช่วยเหลือจากรัฐเข้ามาในเร็วๆ นี้ บริษัทจะต้องพักงานพนักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างราว 19,000 คน และจะต้องยกเลิกการให้บริการบินไปยังพื้นที่เมืองเล็กๆ 15 แห่งด้วย
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัฐสภาสหรัฐฯ อนุมัติความช่วยเหลือมูลค่า 25,000 ล้านดอลลาร์มาให้แก่อุตสาหกรรมการบินแล้ว แต่แผนดังกล่าวมีกำหนดที่จะยุติลงในสิ้นเดือนนี้ ทำให้สายการบินทั้งหลายต้องร้องขอให้รัฐบาลยืดระยะเวลาให้ความช่วยเหลือไปอีก 6 เดือน ขณะที่พยายามเจรจากับพนักงานของตนเพื่อไม่ให้ต้องเลิกจ้างงานมาก หากไม่มีความช่วยเหลือรอบใหม่มา