รายงานหน่วยงานใต้องค์การสหประชาชาติเมื่อวันจันทร์ พบว่าแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ ใช้ช่องทางฟอกเงินผ่านคาสิโนและสกุลเงินดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เฉกเช่นเดียวกับมิจฉาชีพและขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่
ในรายงานที่จัดทำโดยสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ระบุว่า ผู้จัดทำได้วิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชนและข้อมูลทางคดี และพบว่ามีหลายกรณีที่ขบวนการมิจฉาชีพในพื้นที่ลุ่มน้ำโขง ซึ่งเป็นที่ตั้งของกัมพูชา เมียนมา ลาว และไทย ใช้ช่องทางใต้ดินเดียวกันกับ ‘ลาซารัส กรุ๊ป’ กลุ่มนักโจรกรรมทางไซเบอร์ชื่อดังจากเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้รายงานไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมว่ากลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือใช้ช่องทางฟอกเงินใด นอกจากยกตัวอย่างการฟอกเงินจำนวน 81 ล้านดอลลาร์ ที่ขโมยจากธนาคารกลางบังกลาเทศ ผ่านเครือข่ายคาสิโนในฟิลิปปินส์เมื่อปี 2016
หนึ่งในคณะผู้แทนของเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ ตอบคำขอความเห็นของสำนักข่าวรอยเตอร์ในกรณีนี้ว่า “ไม่คุ้นเคยกับประเด็นดังกล่าว” และระบุด้วยว่า การรายงานข่าวที่ผ่านมาเกี่ยวกับลาซารัส คือ “การคาดเดาและข้อมูลเท็จทั้งหมด”
ลาซารัส หรือที่เรียกกันในอีกชื่อว่า APT38 คือกลุ่มที่สหรัฐฯ ระบุว่าถูกสั่งการโดยหน่วยข่าวกรองของเกาหลีเหนือ ซึ่งที่ผ่านมาถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมและการโจมตีทางไซเบอร์ขนานใหญ่ในหลายกรณี และเงินที่ถูกขโมยหรือเรียกค่าไถ่ไปก็ถูกนำไปใช้ในโครงการพัฒนาอาวุธต่าง ๆ
รายงานของ UNODC ระบุว่าชิ้นส่วนสำคัญที่กลายเป็นพื้นฐานให้กับโครงสร้างธุรกรรมใต้ดินให้องค์กรอาชญากรรมในภูมิภาค ประกอบด้วยสองส่วน ได้แก่ เครือข่ายสถานบันเทิงและคาสิโน ซึ่งมีจำนวนมากที่ตั้งอยู่ตามชายแดนประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน และการแลกเปลี่ยนเงินตราทั่วไปเป็นเงินตราสกุลคริปโตที่มีต้นทุนต่ำและสามารถทำได้ง่าย โดยในรายงานระบุถึงการแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงิน USDT ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ผูกมูลค่าไว้กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ในทางรายละเอียด รายงานระบุว่า คาสิโนเป็นพื้นที่ที่การเคลื่อนย้ายและฟอกเงินในสกุลเงินทั่วไปและสกุลเงินคริปโตได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรวจจับไม่ได้ จน “สร้างช่องทางสำหรับการหลอมรวมสินทรัพย์ที่ได้จากอาชญากรรมให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินที่เป็นทางการ”
เจเรมี ดักลาส ผู้แทน UNODC ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวกับรอยเตอร์ว่า จำนวนคาสิโนและการใช้ค่าเงินคริปโตเพิ่มขึ้น ได้ “เสริมพลังอย่างมาก” ให้กับองค์กรอาชญากรรมในภูมิภาค และไม่แปลกที่กลุ่มแฮกเกอร์จะใช้เครื่องมือเดียวกันนี้
- ที่มา: UNODC, รอยเตอร์
กระดานความเห็น