นักเรียนชาวยูเครนจำนวนมากที่มีแผนเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมาต้องเผชิญกับสถานการที่ผกผันอย่างมากเพราะสงครามที่เกิดขึ้นจากการรุกรานของรัสเซีย แต่ในที่สุด หลายคนสามารถเดินทางมาศึกษาต่อได้ตามแผน ด้วยความช่วยเหลือจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ
ฮาเลบ เบิร์ตเซพ ต้องการบันทึกภาพของตนเองขณะที่ได้รับผลการตอบรับเข้าเรียนจากมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐฯ ภาพของการสวมกอดซึ่งกันและกัน ภายใต้บรรยากาศที่ดีใจจากคนในครอบครัว เพื่อที่เขาจะแชร์วิดีโอนี้ในโลกออนไลน์ต่อไป
แต่ปรากฏว่าเมื่อผลตอบรับจากมหาวิทยาลัยมาถึง บูทเซพในวัย 18 ปี กลับต้องอาศัยรวมอยู่กับเด็กคนอื่น ๆ ในห้องที่ไม่มีแม้แต่หน้าต่างสักบาน โดยที่นี่คือสถานพักพิงเพื่อหลบระเบิด ในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เสียงไซเรนเตือนภัยและความมืด ส่งผลให้ เบิร์ตเซพ ไม่สามารถทำตามแผนที่วางไว้ได้
ในวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ราวหนึ่งเดือนหลังจากรัสเซียบุกยูเครน เบิร์ตเซพ ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัย Brown ที่เป็นหนึ่งในกลุ่มไอวีลีค (Ivy League) หรือกลุ่มมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ
ทางมหาวิทยาลัยยื่นข้อเสนอให้เขาเข้าร่วมชั้นเรียนภาคฤดูร้อน อีกทั้งอันเนื่องมาจากภาวะสงครามที่เขาต้องเผชิญ ทางสถานศึกษาจะดูแลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งค่าอาหาร ตั๋วเครื่องบิน และค่าที่พัก เบิร์ตเซพ กล่าวว่า “ไม่คาดคิดมาก่อน ว่าจะได้รับการช่วยเหลือขนาดนี้ จากมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ไกลโพ้น ทุกอย่างเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น จะได้พบคนใหม่ ๆ และเจอโอกาสใหม่ ๆ”
อ้างอิงข้อมูลจากสถาบัน IIE ด้านการศึกษานานาชาติ ที่สำรวจสถานศึกษาจำนวน 559 แห่ง พบว่า มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯจำนวนมากกว่า 120 แห่งมีความพยายามที่จะช่วยเหลือนักเรียนชาวยูเครน โดยคาดว่า ตัวเลขในความเป็นจริงน่าที่จะสูงกว่านั้นเป็นอย่างมาก
โดยความช่วยเหลือดังกล่าว เกิดขึ้นในหลายรูปแบบ อย่างเช่น ดูแลการสมัครของนักเรียนชาวยูเครนให้เสร็จสมบูรณ์ แม้ว่าจะต้องทำงานในชั่วโมงพิเศษเพิ่มเติม การยกเว้นเอกสารทางการบางชนิด ให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมด้านการเงินแก่นักเรียนชาวยูเครน จนถึงวันนี้ความขัดแย้งของทั้งสองประเทศผ่านพ้นไปกว่า 6 แล้ว และนักศึกษาจากยูเครนบางส่วนได้เดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยที่อเมริกาเพื่อเข้าเรียนในภาคฤดูใบไม้ร่วง
ตัวอย่างการให้ความช่วยเหลือ เช่น University of Chicago ตั้งงบมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยนักเรียนชาวยูเครน ที่รวมไปถึงการช่วยเหลือด้านค่าเล่าเรียน มหาวิทยาลัย Texas A&M ให้เงินอุดหนุนทั้งค่าเล่าเรียน ค่าธรรมเนียม และค่าครองชีพ ส่วนมหาวิทยาลัย Hampton ในรัฐเวอร์จิเนียได้เชิญนักศึกษาจำนวน 100 คนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในช่วงฤดูร้อนแบบไม่คิดค่าใช้จ่าย
เจสัน ซิส ประธานร่วมของสถาบัน IIE เรียกการศึกษาระดับอุดมศึกษาของสหรัฐอเมริกาว่า เป็น “ที่หลบภัย” สำหรับนักศึกษาต่างชาติ
ที่ผ่านมานักเรียนชาวยูเครนต้องเผชิญอุปสรรคมากมาย อย่างเช่น สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเคียฟ ไม่ออกวีซ่านักเรียนให้ จนพวกเขาต้องไปที่สถานกงสุลอื่น รวมถึงนักเรียนชายต้องเจอความยากลำบากในการพิสูจน์ว่า พวกเขาไม่ได้มีความพยายามที่จะหนีทหาร
โอเลคซานเดอร์ ซินเฮอิสกี วัย 18 ปี ต้องพยายามมากถึง 4 ครั้งที่จะเดินทางออกจากยูเครนไปยังมอลโดวา ก่อนเขาที่จะไปยังโรมาเนียและใช้เวลาอีก 2 สัปดาห์เพื่อที่จะขอวีซ่า จนในที่สุด เขาเตรียมที่จะเข้าเรียนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่มหาวิทยาลัย Georgetown University ได้สำเร็จ
ซินเฮอิสกี วางแผนที่จะเรียนต่อด้านธุรกิจ แต่จากเหตุการณ์ปัจจุบันที่ประเทศเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ส่งผลให้เขาสนใจที่จะศึกษาต่อในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อที่จะเป็นก้าวไปสู่การเป็นนักการเมืองของยูเครน โดย ซินเฮอิสกี กล่าวว่า สถานการณ์ต่าง ๆ ผลักให้เขาเดินไปในเส้นทางนี้
เมื่อเดินทางมาถึงประเทศสหรัฐฯ นักเรียนจากยูเครนจำนวนมากจะรู้สึกสับสนในจิตใจ ทั้งรู้สึกซาบซึ้ง แต่ก็รู้สึกผิดในเวลาเดียวกัน พวกเขาเป็นห่วงสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ ที่ยังอยู่ในยูเครน หลายคนมองว่า การเรียนและการฝึกอบรมที่พวกเขาจะได้รับ จะสามารถนำไปช่วยสร้างประเทศของตนเองกลับขึ้นมาอีกครั้ง
อาร์น เวสแทด อาจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์รัสเซีย จากมหาวิทยาลัย Yale บอกว่าหลังจากที่พูดคุยกับนักเรียนชาวยูเครน พวกเขาแสดงความต้องการอย่างชัดเจน ที่จะกลับไปยังประเทศของตนเองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในขณะเดียวกันสถานศึกษาส่วนใหญ่ให้ความช่วยเหลือแก่นักเรียนชาวรัสเซียในลักษณะเดียวกัน โดยตระหนักว่านักเรียนชาวรัสเซียไม่สามารถมีอิทธิพลใด ๆ ต่อนโยบายของภาครัฐที่มีต่อยูเครน อีกทั้งพวกเขาก็ประสบกับความโกลาหล ที่เป็นผลมาจากสงครามเช่นกัน
อาร์ซีนี ที นักศึกษาจากกรุงมอสโกว ประเทศรัสเซีย ที่ต้องพักพิงในประเทศลัตเวียขณะที่เกิดสงคราม จนเขาเรียนไม่จบมัธยมปลาย และไม่สามารถเข้าสอบระดับภาครัฐได้ อย่างไรก็ตาม วิทยาลัยการเดินเรือ SUNY ในนครนิวยอร์ก อนุญาตให้เขายื่นใบสมัครล่าช้า และให้สิทธิ์เข้าเรียนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ส่งผลให้นักศึกษาคนนี้ สามารถเลื่อนการเกณฑ์ทหารในรัสเซียได้
รายงานของสถาบัน IIE ชี้ว่าระหว่างปีการศึกษา 2020 และ 2021 มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ มีชาวรัสเซียจำนวน 4,805 คน และชาวยูเครนจำนวน 1,739 คน
- ที่มา: รอยเตอร์