กองทัพยูเครนอ้างว่ารัสเซียใช้แก๊สน้ำตาในสงครามด้านแนวรบตะวันออก ซึ่งแม้จะเป็นเครื่องมือสลายฝูงชนที่เห็นกันจนชินตา แต่คุณสมบัติของมันทำให้ถูกห้ามใช้ในสงครามตามกฎหมายระหว่างประเทศ ตามการรายงานของรอยเตอร์
ยูเครนและรัสเซียได้ลงนามในอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention) ซึ่งห้ามใช้แก๊สน้ำตาในสงคราม
การใช้แก๊สน้ำตาในสนามรบถูกห้ามด้วยเหตุผลว่า อาวุธดังกล่าวทำให้ทหารที่ไม่มีหน้ากากป้องกันต้องเลือกระหว่างหนีออกจากพื้นที่เพื่อไปเจอกับการโจมตีด้านนอกสนามเพลาะ หรือเลือกทนหายใจไม่ออกอยู่ในควันแก๊ส ซึ่งต่างจากการสลายฝูงชนในเมืองที่สามารถออกจากพื้นที่การใช้แก๊สน้ำตาได้อย่างปลอดภัยกว่า
พ.อ.เซอร์ฮี พาโคมอฟ รักษาการกองกำลังป้องกันอาวุธนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของยูเครน ระบุว่ารัสเซียใช้ระเบิดที่มีสารผสมของแก๊สน้ำตามาแล้ว 1,400 ครั้งนับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้นเมื่อปี 2022 โดยจำนวน 900 ครั้งเกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ยูเครนกล่าวหาว่ารัสเซียใช้ ‘คลอโรพิคริน’ ซึ่งเป็นสารใช้ทำอาวุธแก๊สพิษตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1
สถานทูตรัสเซียประจำประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งขององค์กรห้ามอาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons (OPCW)) ชี้แจงในแพลตฟอร์ม X เมื่อเดือนมกราคมว่า ข้อกล่าวหาของยูเครนเรื่องการใช้แก๊สน้ำตานั้นเป็นข้อมูลที่ยังไม่มีการยืนยัน
รอยเตอร์ติดต่อไปยังกระทรวงกลาโหมรัฐบาลกรุงมอสโก แต่ไม่ได้รับการตอบรับ ก่อนหน้านี้รัสเซียเองก็กล่าวหาว่ายูเครนใช้อาวุธเคมีเช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกรุงเคียฟปฏิเสธ และรอยเตอร์เองก็ยังไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ของทั้งสองฝ่ายได้
พ.อ.พาโคมอฟกล่าวว่ามีทหารยูเครน 500 นาย ร้องขอความช่วยเหลือจากแพทย์หลังถูกสารพิษในสนามรบ และมีอย่างน้อยหนึ่งนายที่เสียชีวิตจากการหายใจไม่ออก
“นอกจากการทำลายขวัญกำลังใจแล้ว คน(ที่ถูกแก๊ส) ยังสูญเสียสมรรถภาพทางกาย เขามองไม่เห็น หายใจไม่ออก และแสบคันไปเสียทุกอย่าง” พาโคมอฟกล่าว และระบุด้วยว่า “ใช่แน่ว่ามันเป็นแค่ชั่วคราว แต่มันก็เป็นชั่วคราวที่ศัตรูสามารถใช้เพื่อยึดพื้นที่”
กองทัพยูเครนเริ่มแจกจ่ายหน้ากากป้องกันแก๊ส และฝึกให้ทหารสู้รบป้องกันพื้นที่ภายใต้อาวุธแก๊ส อย่างไรก็ตาม ครูฝึกทหารในคาร์คีฟบอกกับรอยเตอร์ว่า การสู้รบในควันแก๊สเป็นระยะเวลานานก็อาจทำให้หน้ากากเสื่อมสภาพได้
โวโลดิเมียร์ แพทย์อายุ 37 ปีในเขตปกครองดอแนตสก์ กล่าวว่าจำนวนทหารที่เข้ารับการรักษาจากการถูกแก๊สมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้มีการรักษาลักษณะนี้เพียงสัปดาห์ละสองนาย
ด้านนาตาเลีย โควาเนตสก์ พยาบาลอายุ 53 ปีในหน่วยแพทย์ทหารยูเครนที่เขตปกครองลูฮันสก์ กล่าวว่าได้พยาบาลทหารที่ได้รับผลกระทบจากแก๊สน้ำตาเช่นกัน ซึ่งอาการที่เห็นนั้นค่อนข้างเบาและสามารถรักษาได้
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น