ยูเครนและรัสเซียต่างกล่าวอ้างว่า ได้สังหารทหารของฝ่ายศัตรูเสียชีวิตหลายร้อยคนในช่วง 24 ชม. ในสมรภูมิเมืองบาคห์มุต โดยที่ทั้งสองฝ่ายอ้างด้วยว่าสามารถครอบครองพื้นที่บางส่วนของเมืองนี้ไว้แล้ว
เซอร์เฮย์ เชเรวาตยี โฆษกกองทัพยูเครน กล่าวว่า มีทหารของกองกำลังสนับสนุนรัสเซียเสียชีวิต 221 คน และบาดเจ็บมากกว่า 300 คน ในการต่อสู้ที่บาคห์มุตเมื่อวันเสาร์ ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่า ทหารยูเครนเสียชีวิต 210 คนในบริเวณแนวหน้าของเขตปกครองดอแนตสก์ ที่ตั้งของเมืองบาคห์มุต
อย่างไรก็ดี สถาบัน Institute for the Study of War ที่ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ระบุในรายงานประเมินสถานการณ์สงครามล่าสุดว่า ไม่มีรายงานที่สามารถยืนยันได้ว่า กองกำลังรัสเซียในบาคห์มุตทำการรุกคืบเพิ่มเติมได้
ขณะเดียวกัน เยฟเกนี พริโกชิน ผู้ก่อตั้ง แว็กเนอร์ กรุ๊ป องค์กรทหารรับจ้างที่ร่วมรบกับรัสเซีย ระบุในข้อความที่โพสต์ผ่านแอปเทเลแกรมในวันอาทิตย์ว่า สถานการณ์ในบาคห์มุตนั้นอยู่ในภาวะ "ยากลำบาก ยากลำบากมาก ขณะที่ ศัตรูพยายามต่อสู้ให้ได้(พื้นที่)ทุกเมตร"
ในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ เมืองบาคห์มุต ทางภาคตะวันออกของยูเครน กลายเป็นสมรภูมิที่ทั้งสองฝ่ายสู้รบอย่างดุเดือดเพื่อแย่งชิงพื้นที่ และมีรายงานทหารของทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตจำนวนมากที่สุดแห่งหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขที่แน่นอนได้
ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ หน่วยงานข่าวกรองของกองทัพอังกฤษรายงานว่า กลุ่มทหารรับจ้าง แวกเนอร์ กรุ๊ป ของรัสเซีย สามารถยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันออกของเมืองบาคห์มุตไว้ได้แล้ว พร้อมระบุว่า เวลานี้แม่น้ำบาคห์มุตตาซึ่งไหลผ่านใจกลางเมืองได้กลายเป็นแนวหน้าจุดใหม่ของสนามรบนี้
ส่วนทางยูเครนยืนยันว่าสามารถยึดฐานที่มั่นทางฝั่งตะวันตกของบาคห์มุตเอาไว้ได้ ขณะที่พันเอกโอเลกซานเดอร์ เซียร์สกี ผู้บัญชาการกองกำลังยูเครนประจำเมืองนี้ กล่าวว่า การปกป้องเมืองบาคห์มุตคือกุญแจสำคัญในการโต้กลับกองกำลังรัสเซีย
"พื้นที่นี้กลายเป็นเขตสังหาร และถือเป็นความท้าทายของกองกำลังแวกเนอร์ในการรุกคืบข้ามแม่น้ำเข้าไปด้านตะวันตกของเมือง" ขณะที่ "ฝ่ายยูเครนและเส้นทางขนส่งเสบียงของพวกเขาทางตะวันตกก็เปราะบางต่อการระดมโจมตีของรัสเซียที่พยายามตีวงล้อมมาจากทางทิศเหนือและทิศใต้เช่นกัน" หน่วยข่าวกรองอังกฤษระบุ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลรัสเซียยืนยันว่า การยึดเมืองบาคห์มุตมีความสำคัญด้านขวัญกำลังใจ และจะเป็นก้าวสำคัญในการยึดแคว้นดอนบาสทั้งหมดซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของรัสเซีย
- ที่มา: รอยเตอร์
