บริษัท ไทสัน ฟู้ดส์ อิงค์ (Tyson Foods Inc.) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเนื้อสัตว์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เตรียมตัวเปิดโรงงานผลิตอาหารที่ใช้โปรตีนจากพืชในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อหวังจับตลาดผู้บริโภคที่ใส่ใจอาหารกลุ่มโปรตีนทางเลือกที่ขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะตลาดเริ่มดุเดือดขึ้นจากบริษัทคู่แข่งที่มีอยู่หลายรายในเวลานี้
ปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิตอาหารหลายราย อาทิ อิมพอสซิเบิล ฟู้ดส์ อิงค์ (Impossible Foods Inc.) เนสท์เล่ (Nestle SA) และ บียอนด์ มีท อิงค์ (Beyond Meat Inc.) ได้รุกคืบเข้ามาในตลาดเอเชียเพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่สนใจอาหารซึ่งใช้โปรตีนพืชเป็นส่วนประกอบหลักแล้ว ทำให้มีการคาดการณ์ว่า ความต้องการจากผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ สวัสดิภาพของสัตว์ และสิ่งแวดล้อม น่าจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนี้
บริษัทวิจัยการตลาด Euromonitor เปิดเผยว่า ธุรกิจค้าปลีกอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ทางเลือกในเอเชีย-แปซิฟิกมีมูลค่าสูงถึง 16,300 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา และประเมินว่า ตัวเลขดังกล่าวน่าจะเพิ่มขึ้นจนเกินระดับ 20,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี ค.ศ. 2025 ด้วย
แทน ซุน ประธานบริษัท ไทสัน ฟู้ดส์ เอเชีย-แปซิฟิก ระบุในแถลงการณ์ว่า ตลาดเอเชียนั้นเหมาะกับอาหารกลุ่มโปรตีนทางเลือกโดยธรรมชาติของตัวมันเอง โดยดูได้จากการที่มีอาหารหมวดนี้ เช่น เต้าหู้ เป็นส่วนประกอบมื้ออาหารอยู่ทั่วภูมิภาคอยู่แล้ว
ในช่วงแรก ไทสัน ฟู้ดส์ วางแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์นักเก็ต (nuggets) ไก่ไร้กระดูก (strips) และเนื้อไก่ชิ้น (bites) ที่ทำจากโปรตีนพืช สำหรับผู้บริโภคในมาเลเซีย ภายใต้แบรนด์ เฟิร์สต ไพรด์ (First Pride) ก่อนจะขยายไปยังตลาดอื่นๆ ต่อไป