ผู้บริหารของ ทวิตเตอร์ และ เฟสบุ๊ค ยืนยันความพร้อมดำเนินมาตรการสกัดกั้นการแพร่กระจายข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ในระหว่างการให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการตุลาการของวุฒิสภา
สำนักข่าว Associated Press รายงานว่า แจ็ค ดอร์ซีย์ ซีอีโอของทวิตเตอร์ และ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง เฟสบุ๊ค ยืนยันผ่านระบบออนไลน์ ต่อคณะกรรมาธิการตุลาการวุฒิสภาสหรัฐฯ ในวันอังคารว่า มาตรการต่างๆ ที่บริษัทนำมาใช้เพื่อป้องกันการส่งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและบิดเบือน และการปลุกระดมการใช้ความรุนแรงต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีนี้ มีประสิทธิภาพและใช้งานได้ดี
อย่างไรก็ดี ส.ว. ลินซีย์ แกรห์ม ประธานคณะกรรมาธิการฯ รวมทั้งสมาชิกวุฒิสภาจาพรรครีพับลิกัน ยังเดินหน้ายกประเด็นของการที่สื่อสังคมออนไลน์ทั้งสองแห่งทำการเซ็นเซอร์ข้อความจากผู้ใช้งานและการที่มีผู้มองว่าทั้งคู่มีอคติต่อแนวคิดอนุรักษ์นิยม มาถกกับทั้ง ดอร์ซีย์ และ ซัคเคอร์เบิร์ก รวมทั้งสอบถามเรื่องการแพร่กระจายข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ถูกบิดเบือน แม้ว่าหลายรายจะยังปฏิเสธที่จะโต้คำกล่าวหาของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมามีเหตุทุจริตและการโกงก็ตาม
ขณะเดียวกัน สมาชิกคณะกรรมาธิการที่มาจากพรรคเดโมแครต เรียกร้องให้มีการยกเลิกความคุ้มครองทางกฎหมายที่ช่วยให้บริษัทเทคโนโลยีทั้งหลายไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบทางกฎหมาย ในกรณีที่ข้อมูลที่ส่งผ่านสื่อออนไลน์ของตนทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น โดยเน้นย้ำประเด็นเรื่อง Hate Speech หรือ ประทุษวาจา ซึ่งหมายถึง ถ้อยคำโจมตีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลด้วยเหตุแห่งเชื้อชาติ ศาสนา เพศ หรือรสนิยมทางเพศ รวมทั้งเรื่องการใช้แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ออกมาปลุกระดมการใช้ความรุนแรง
ผู้บริหารของสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมทั้งสอง ยืนยันต่อคณะกรรมาธิการฯ ว่า ทีมงานของตนดำเนินการเตือนผู้ใช้งานเกี่ยวกับข้อมูลที่ผิดๆ อย่างต่อเนื่อง โดย ดอร์ซีย์ ระบุว่า ทวิตเตอร์ ขึ้นข้อความเตือนทวีต ราว 300,000 ทวีตที่มีการส่งออกมาระหว่างวันที่ 27 ตุลาคมและ 11 พฤศจิกายน ซึ่งมีข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรืออาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ขณะที่ ซัคเคอร์เบิร์ก กล่าวว่า เฟสบุ๊ค ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งในการลบโพสต์ที่มีข้อมูลที่ผิดเกี่ยวกับสถานที่จัดการลงคะแนนเลือกตั้ง และมีการขึ้นคำเตือนกว่า 150 ล้านโพสต์หลังมีการตรวจสอบความถูกต้องโดยทีมงานอิสระแล้ว เป็นต้น