ประธานาธิบดีตุรกี เรจิบ เทยิบ เออร์โดวาน ประกาศภาวะฉุกเฉินในวันอังคาร ครอบคลุมพื้นที่ 10 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวสองครั้งเมื่อวันจันทร์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 7,800 คน และก่อความเสียหายเป็นวงกว้างในแถบภาคใต้ของตุรกีและบางส่วนของซีเรีย
อาคารหลายพันแห่งถล่มลงมาจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงโรงเรียนและโรงพยาบาลหลายแห่งซึ่งได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวความแรง 7.8 โดยคาดว่า มีผู้บาดเจ็บหรือไร้ที่อยู่อาศัยหลายหมื่นคนในหลายเมืองใหญ่ของตุรกีและซีเรีย
สำนักงานจัดการภัยพิบัติและเหตุฉุกเฉินของตุรกี (AFAD) ระบุว่า มีอาคารเสียหายจากแผ่นดินไหว 5,775 แห่ง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 20,426 คน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงพยายามเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง โดยคาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่ เจ้าหน้าที่ของสหประชาติประเมินว่า อาจมีเด็กเสียชีวิตจากภัยพิบัตินี้หลายพันคน
สภาพอากาศเย็นจัดทำให้การทำงานเป็นไปอย่างลำบาก รวมทั้งเป็นอุปสรรคต่อการจัดส่งความช่วยเหลือต่าง ๆ ขณะที่ หลายพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าและเชื้อเพลิง
ในการปราศรัยในวันอังคาร ประธานาธิบดีเออร์โดวาน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 10 จังหวัดซึ่งถูกระบุเป็น "เขตภัยพิบัติ" เป็นเวลาสามเดือน ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลตุรกีสามารถผ่านกฎหมายต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องผ่านรัฐสภา รวมทั้งสามารถจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในจังหวัดเหล่านั้นเป็นการชั่วคราวด้วย
ทั้งนี้ ตุรกีกำลังจะจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศในอีกสามเดือนข้างหน้าเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ตุรกีระบุว่า มีประชาชน 13.5 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่ราว 450 กิโลเมตรจากเมืองอดานา ทางตะวันตกไปจนถึงเมืองดิยาบาเคียร์ ทางตะวันออก ส่วนซีเรียรายงานผู้เสียชีวิตในหลายพื้นที่ รวมทั้งที่เมืองฮามา ซึ่งห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวราว 100 กม.
เจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวนมากยังคงปฏิบัติภารกิจตลอดทั้งวันทั้งคืนเพื่อค้นหาผู้ประสบภัยในอาคารถล่ม ท่ามกลางความหวังของญาติพี่น้องและประชาชนที่เฝ้าดูเหตุการณ์ครั้งนี้
ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส กล่าวที่นครเจนีวา ว่า "ขณะนี้คือการทำงานแข่งกับเวลา... ทุกนาที ทุกชั่วโมงที่ผ่านไป คือโอกาสที่จะสามารถพบผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง"
- ที่มา: รอยเตอร์