หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่พรมแดนตุรกี-ซีเรียผ่านไปแล้วถึงกว่า 4 วัน โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติครั้งใหญ่นี้ก็ลดลงไปเรื่อย ๆ แต่ในวันศุกร์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยผู้ประสบภัยหลายคนออกมาจากซากปรักหักพังในจังหวัดฮาทัยทางใต้ของประเทศออกมาได้ โดยในกลุ่มผู้รอดชีวิตนี้มีเด็กชายอายุ 10 วันและแม่ของเขาด้วย
จนถึงบัดนี้ มีผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือจากซากอาคารต่าง ๆ ในตุรกีแล้วกว่า 8,000 คน ขณะที่ รองประธานาธิบดี ฟูอัต อ็อกทัย กล่าวว่า มีประชาชนราว 380,000 คนที่ต้องอาศัยที่หลบภัยชั่วคราวหรือโรงแรมต่าง ๆ เป็นที่อยู่อาศัย และประชาชนจำนวนไม่น้อยต้องอาศัยพื้นที่ห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา มัสยิด และศูนย์ชุมชนต่าง ๆ เพื่อหลับนอน โดยมีอีกไม่น้อยที่มีเพียงผ้าห่มคลุมกายเพื่อหลับนอนรอบกองไฟในพื้นที่เปิดโล่งภายนอก
ในเวลานี้ ประชาชนนับแสนทั้งในตุรกีและซีเรียตกอยู่ในภาพไร้ที่อยู่อาศัยเพราะภัยพิบัติครั้งล่าสุดนี้ ขณะที่ อุณหภูมิในภูมิภาคนี้ลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็งอยู่
รอยเตอร์รายงานว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวความแรง 7.8 เมื่อวันจันทร์ทั้งในพื้นที่ภาคใต้ของตุรกีและภาคตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกีนั้นอยู่ที่กว่า 23,700 คนแล้ว ทำให้ภัยพิบัติครั้งนี้ถูกจัดให้เป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 เมื่อเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิในญี่ปุ่นที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 20,000 คน
นับตั้งแต่เกิดเหตุมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องประสบปัญหาการทำงานอย่างยากลำบากเนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์ที่จำเป็น
รายงานข่าวระบุว่า ขบวนขนส่งความช่วยเหลือจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ด้วยรถบรรทุก 6 คันยังไปไม่ถึงซีเรีย ในวันพฤหัสบดี และยังติดอยู่ที่ช่องผ่านแดน บาบ อัล-ฮาวา ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวที่ยูเอ็นสามารถใช้งานได้ โดยถนนที่วิ่งในฝั่งตุรกีที่เชื่อมกับจุดผ่านแดนนั้นถูกทำลายเสียหายเพราะแผ่นดินไหวและเพิ่งเปิดกลับมาใช้งานได้
และในวันศุกร์ ประธานาธิบดีเรจิบ เทยิบ เออโดวาน แห่งตุรกี เดินทางเยือนจังหวัดอดิยามาน เพื่อเยี่ยมผู้ประสบภัย และยอมรับว่า การรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นของรัฐบาลนั้นยังมีปัญหาอยู่ โดยระบุว่า “แม้เราจะมีทีมค้นหาและกู้ชีพที่ใหญ่ที่สุดในโลกเวลานี้ ความเป็นจริงก็คือ ความพยายามค้นหา(ผู้รอดชีวิต) ไม่ได้เดินหน้าได้เร็วอย่างที่เราต้องการให้เป็น”
ผู้นำตุรกีกล่าวด้วยว่า มีรายงานการปล้นสะดมตามร้านต่าง ๆ ในบางพื้นที่ด้วย
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีบะชาร์ อัล-อัซซาด แห่งซีเรียพร้อมภริยา เดินทางมาเยี่ยมผู้ประสบภัยที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองอเลปโป ซึ่งเป็นเมืองอีกแห่งของประเทศที่ประสบภาวะความเสียหายอย่างหนักจากการถูกทิ้งระเบิดในช่วงสงครามกลางเมืองก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ และนี่เป็นครั้งแรกของผู้นำซีเรียที่เดินทางเยือนพื้นที่ประสบภัย
สถานีโทรทัศน์ซีเรียถ่ายทอดภาพปธน.อัซซาดขณะร่วมประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือประเด็นการจัดการและความช่วยเหลือต่าง ๆ แต่ผู้นำซีเรียยังไม่ได้ออกมากล่าวสุนทรพจน์หรือจัดการแถลงข่าวเกี่ยวกับภัยพิบัติครั้งนี้
อย่างไรก็ดี รอยเตอร์รายงานว่า ปธน.อัซซาดได้อนุมัติให้มีการนำส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังพื้นที่ด่านหน้าของการสู้รบของสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมาถึง 12 ปี ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ว โดยการดำเนินการดังกล่าวน่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้มีการส่งความช่วยเหลือไปยังประชาชนนับล้านได้เร็วขึ้น
ก่อนหน้านี้ โครงการอาหารโลกของยูเอ็นเปิดเผยว่า เสบียงอาหารของตนในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มกบฏอยู่กำลังจะหมดลง
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์
