ตุรกีประกาศในวันอังคารว่า กำลังใช้มาตรการจำกัดการค้าอิสราเอลซึ่งจะมีผลต่อสินค้า 54 ประเภท รวมทั้งเหล็ก ปูนซีเมนต์ ปุ๋ยและเชื้อเพลิง จนกว่าอิสราเอลจะยอมประกาศหยุดยิงในกาซ่า
คำประกาศของตุรกีมีขึ้นหลังจากที่อิสราเอลปฏิเสธคำร้องของตุรกีที่ต้องการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทางอากาศในฉนวนกาซ่า โดยก่อนหน้านี้หลายประเทศได้ใช้วิธีปล่อยความช่วยเหลือลงจากเครื่องบินเพื่อบรรเทาวิกฤตด้านมนุษยธรรมในกาซ่า เนื่องจากไม่สามารถใช้วิธีขนส่งภาคพื้นดินได้อย่างเต็มที่
อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ประกาศว่าจะใช้มาตรการตอบโต้ต่อตุรกีอย่างทัดเทียมกัน พร้อมระบุทางสื่อสังคมออนไลน์ X ว่า ประธานาธิบดีตุรกี เรจิบ เทยิบ เออโดวาน กำลังทำลาย "ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประชาชนตุรกีเพื่อสนับสนุนฆาตกรฮามาสในกาซ่า"
การเจรจาคืบหน้า?
ภายหลังการเจรจาครั้งล่าสุดในกรุงไคโรระหว่างผู้แทนของสหรัฐฯ อิสราเอล กลุ่มฮามาส และกาตาร์ ทางกลุ่มฮามาสระบุว่าจะพิจารณาข้อเสนอหยุดยิง 6 เดือน แลกกับการปล่อยตัวประกันบางส่วน และทางอิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์เป็นการแลกเปลี่ยน รวมทั้งเปิดทางให้มีการขนส่งความช่วยเหลือเข้าไปในกาซ่าได้มากขึ้น และยินยอมให้ชาวปาเลสไตน์บางส่วนเดินทางกลับไปยังบ้านของพวกเขาทางเหนือของกาซ่า
รอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มฮามาส ระบุในวันอังคารว่าข้อเสนอของอิสราเอลไม่บรรลุความต้องการของฝั่งฮามาส โดยกล่าวว่า "ฮามาสยังคงสนใจในการบรรลุข้อตกลงที่ยุติความรุนแรงต่อประชาชนของเรา อย่างไรก็ตาม จุดยืนของอิสราเอลยังคงไม่ประนีประนามและไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้องของเรา" แต่จะขอพิจารณาเพิ่มเติมก่อนจะให้คำตอบกับตัวแทนเจรจาเป็นลำดับต่อไป
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กดดันกลุ่มฮามาสให้ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงกับอิสราเอล โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันอังคารที่กรุงวอชิงตันว่า "โลกกำลังจับตามองในสิ่งที่กลุ่มฮามาสทำ" และเสริมว่าสงครามควรยุติไปหลายเดือนก่อนหน้านี้หากกลุ่มฮามาส "วางกระบอกปืนลง หยุดหลบซ่อนเบื้องหลังผู้บริสุทธิ์และประกาศความพ่ายแพ้"
ทางด้านนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวในวันจันทร์ว่า ตนได้รับทราบรายละเอียดการเจรจาดังกล่าวแล้ว และจะเดินหน้าทำงานเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย คือการปล่อยตัวประกันและเอาชนะกลุ่มฮามาส "ซึ่งจำเป็นต้องรุกเข้าไปในเมืองราฟาห์และกำจัดกองกำลังก่อการร้ายที่นั่นให้หมดสิ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น และมีการกำหนดวันไว้แล้ว"
อย่างไรก็ตาม รองโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซาบรินา ซิงห์ ยืนยันว่าสหรัฐฯ ไม่สนับสนุนปฏิบัติการของอิสราเอลในเมืองราฟาห์ "เราต้องการเห็นแผนอันน่าเชื่อถือเสียก่อนว่าพวกเขาจะปฏิบัติการในราฟาห์อย่างไร" ซึ่งรวมถึงความกังวลด้านมนุษยธรรมต่อชาวปาเลสไตน์มากกว่าหนึ่งล้านคนที่อพยพไปอยู่ที่นั่น "แต่ตอนนี้เรายังไม่เห็นแผนดังกล่าว"
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตือนเนทันยาฮูว่า สหรัฐฯ อาจเปลี่ยนจุดยืนในสงครามครั้งนี้ และขอให้อิสราเอลเปิดทางให้ความช่วยเหลือสามารถเข้าไปในกาซ่าได้ทันที หลังการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ 7 คน ขององค์กรช่วยเหลือด้านอาหาร World Central Kitchen (WCK) เมื่อสัปดาห์ก่อน
เมื่อวันจันทร์ เพนตากอนรายงานว่า รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน ได้เจรจาทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล โยอาฟ กัลแลนต์ และได้กล่าวถึงความจำเป็นของการเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในกาซ่า และการสืบสวนการโจมตีขบวนรถขนส่งความช่วยเหลือของ World Central Kitchen ดังกล่าวด้วย
โฆษกของเพนตากอนระบุว่า ทางรัฐมนตรีกัลแลนต์ได้เผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนถอนทหารอิสราเอลบางส่วนออกจากกาซ่า และแนวทางปฏิบัติการของอิสราเอลต่อกลุ่มฮามาสในอนาคต ให้ทางรัฐมนตรีออสตินรับทราบด้วย
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์