ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ชูผลงานด้านเศรษฐกิจ หลังจากมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเมื่อเดือนก่อน และเป็นข่าวดีท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 สวนทิศทางเศรษฐกิจโดยรวมที่ส่อเค้าซบเซา
ผู้นำสหรัฐฯ ขึ้นกล่าวที่ทำเนียบขาวในเช้าวันศุกร์ ว่าสหรัฐฯมีการจ้างงานในเดือนก่อนเพิ่มขึ้นถึง 2.5 ล้านตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนว่าเรามาถูกทางแล้ว พร้อมทั้งยังบอกว่า เศรษฐกิจอเมริกาจะดีมากๆ ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ยาวไปถึงฤดูใบไม้ร่วงเลยทีเดียว และว่าสหรัฐฯจะกลับมามีเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในโลกอีกครั้ง
ในถ้อยแถลงเกือบ 1 ชั่วโมงของประธานาธิบดีทรัมป์ บอกว่าตนเป็นผู้ผลักดันให้เศรษฐกิจกลับมากระเตื้องขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งสถานการณ์อาจเปลี่ยนไปคนละทางได้หากเลือกผู้นำผิดคนในศึกเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนนี้ และได้ใช้เวลาสั้นๆกล่าวถึงการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ โดยฝีมือตำรวจมินนีอาโปลิสเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า “หวังว่าจอร์จ ฟลอยด์ จะมองลงมาจากสวรรค์ในตอนนี้ และบอกว่านี่คือสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นกับสหรัฐฯในตอนนี้”
ตัวเลขอัตราการว่างงาน จากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ที่เปิดเผยในวันศุกร์ อยู่ในทิศทางที่ดีกว่าที่คาด คือ 13.3% ช่วงเดือนพฤษภาคม แต่ถือว่าเป็นอัตราการว่างงานในระดับที่สหรัฐฯเคยเผชิญช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ Great Depression
จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวเลขที่ชัดเจนได้ว่า ตำแหน่งงานที่สูญเสียไปในช่วงโควิด-19 นั้นจะหายไปอย่างถาวรหรือไม่ หากสหรัฐฯ กลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามปกติ อีกทั้งตัวเลขอัตราว่างงานช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยังไม่สะท้อนถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการประท้วงทั่วสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ จากการใช้ความรุนแรงของตำรวจ เมื่อ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา
นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนประเมินว่า อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ จะยังคงอยู่เลขสองหลักแบบนี้ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และอาจเป็นเช่นนี้ต่อไปจนถึงปีหน้า
ที่ผ่านมา สหรัฐฯเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจทุกวิถีทาง ทั้งการแจกเช็คช่วยเหลือให้ถึงมือประชาชน การเพิ่มเงินช่วยเหลือว่างงานอีก 600 ดอลลาร์ และล่าสุดลงนามรับรองการขยายขอบเขตงบประมาณช่วยเหลือ ภายใต้โครงการ Paycheck Protection Program เพื่อช่วยรักษาตำแหน่งงานในอเมริกาช่วงวิกฤตโควิด-19 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
