ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยแผนยุทธศาสตร์ Missile Defense Review (MDR) ซึ่งถือเป็นการยกเครื่องนโยบายด้านขีปนาวุธเพื่อการป้องกันตนเองของสหรัฐฯ ครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010
ปธน.ทรัมป์ กล่าวที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีว่า แผนนี้จะช่วยให้สหรัฐฯ สามารถตรวจจับและทำลายจรวดขีปนาวุธได้ทุกที่และทุกเวลา ซึ่งจะทำให้อเมริกาแซงหน้าประเทศศัตรูได้
เดิมแผนการนี้มีกำหนดเปิดตัวเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ได้รับการปรับแก้ให้ทันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ อิหร่าน จีนและรัสเซีย
ปธน.ทรัมป์ ยังระบุด้วยว่า งบประมาณก้อนต่อไปของเพนตากอนจะนำไปใช้ในการสร้างระบบยิงสกัดขีปนาวุธในอวกาศ รวมถึงระบบตรวจจับอาวุธจากอวกาศด้วย ซึ่งจะช่วยตรวจจับขีปนาวุธของศัตรูได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และยิงสกัดได้ขณะอยู่ในอวกาศ หรือแม้แต่ในขณะที่ขีปนาวุธนั้นกำลังจะถูกปล่อยจากฐานยิง
โดยแนวคิดที่ว่านี้ดัดแปลงมาจากโครงการที่เรียกว่า "Star Wars" ซึ่งเกิดขึ้นในยุคประธานาธิบดี โรนัลด์ เรแกน เมื่อทศวรรษ 1980
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า ระบบป้องกันขีปนาวุธในอวกาศนี้จะช่วยป้องกันการโจมตีจากอาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียงได้
ก่อนหน้านี้ รายงานของเพนตากอนระบุว่า จีนมีเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาอาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียงได้ก้าวล้ำที่สุดในโลก
ส่วนทางรัสเซียก็ประกาศเมื่อไม่นานนี้ว่า สามารถพัฒนาขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงได้แล้วเช่นกัน
นอกเหนือจากระบบยิงสกัดขีปนาวุธในอวกาศแล้ว ยุทธศาสตร์ Missile Defense Review (MDR) ยังรวมถึงการสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธภาคพื้นดินที่รัฐอลาสก้าอีก 20 จุด ภายในปี ค.ศ. 2023 นี้