ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศในวันศุกร์ว่า สหรัฐฯ จะส่งทหารอีก 1,500 คนไปสมทบกับกองทัพอเมริกันในตะวันออกกลาง เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากอิหร่าน
ด้านรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ แพท แชนนาแฮน กล่าวว่า กำลังสมทบนี้จะประกอบด้วยกองพันที่สามารถปกป้องการถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ เครื่องบินตรวจการณ์และสอดแนม ฝูงบินรบ ตลอดจนหน่วยทหารช่าง ซึ่งจะประจำการที่กองบัญชาการภาคพื้นตะวันออกกลางของสหรัฐฯ หรือ CENTCOM
ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพสหรัฐฯ ผู้หนึ่ง ชี้แจงว่า จำนวนทหาร 1,500 นายที่ ปธน.ทรัมป์ระบุนั้น ประกอบด้วย 900 นายที่เป็นทหารซึ่งส่งไปใหม่ และ 600 นายเป้นทหารที่ประจำการอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว แต่ยืดระยะเวลาประจำการออกไป
ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศเรื่องการส่งกำลังทหารไปเพิ่ม ปธน.ทรัมป์ แสดงความสงสัยระหว่างฟังรายงานสรุปเรื่องความมั่นคงในตะวันออกกลาง ว่ามีความจำเป็นแค่ไหนที่สหรัฐฯ ต้องเพิ่มกำลังทหารในภูมิภาคนี้ โดยผู้นำสหรัฐฯ เชื่อว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม สมาชิกรัฐสภาบางคนจากพรรคเดโมแครต ไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มกำลังทหารในครั้งนี้ เพราะเกรงว่าจะยิ่งทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางตึงเครียดยิ่งขึ้น
ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน รุนแรงยิ่งขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศการตัดสินใจที่จะตัดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านลงทั้งหมด และเพิ่มมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจอื่นๆ ต่ออิหร่าน พร้อมไปกับการเพิ่มกิจกรรมทางทหารในตะวันออกกลาง
โดยขณะนี้กองเรือที่ 5 ของสหรัฐฯ เพิ่มการลาดตระเวณ และการปฏิบัติการทางนาวี ในทะเลอาราเบียน นอกจากนี้กองทัพอเมริกันให้เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Abraham พร้อมด้วยเรือ USS Arlington และเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ไปประจำการในตะวันออกกลาง