อังกฤษเปิดเผยในวันจันทร์ว่า มีผู้เสนอแนวคิดออกมาหลายอย่างเพื่อหาทางยุติการสู้รบระหว่างยูเครนและรัสเซีย หลังฝรั่งเศสเสนอแผนพักรบ 1 เดือนเพื่อให้มีการเจรจาสันติภาพ ขณะที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เอ่ยปากว่า ความอดทนของตนกำลังจะหมดลงแล้ว ตามรายงานของรอยเตอร์
กลุ่มประเทศยุโรปที่นำทีมโดยอังกฤษและฝรั่งเศส กำลังรวมกำลังสนับสนุนประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี และพยายามวางแผนสันติภาพที่มีกรุงเคียฟมีส่วนร่วมด้วย หลังเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดหนักระหว่างเซเลนสกีและทรัมป์ที่ทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ก่อน
ในเวลานี้ ฝรั่งเศส อังกฤษและประเทศอื่น ๆ ในยุโรปได้เสนอว่าจะส่งทหารของตนไปยูเครน หากเกิดการหยุดยิงขึ้นจริง แม้มอสโกจะปฏิเสธแนวคิดนี้ไปแล้ว และกล่าวเพียงว่าต้องการการหนุนหลังจากสหรัฐฯ
เมื่อไม่นานมานี้ ทรัมป์พลิกกลับนโยบายรัฐบาลสหรัฐฯ และหันมาเปิดช่องทางหารือกับมอสโกเกี่ยวกับกรณียูเครน โดยไม่ได้ปรึกษาหารือพันธมิตรชาติตะวันตกอื่น ๆ และเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้เอ่ยปากว่าเซเลนสกีต่อหน้าสาธารณะให้ทำตามสิ่งที่สหรัฐฯ ต้องการ มิฉะนั้น กรุงวอชิงตันจะไม่ส่งความช่วยเหลือทางทหารที่มีความสำคัญให้อีกต่อไป
และเมื่อวันจันทร์ ปธน.สหรัฐฯ ออกมาโต้ตอบด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดต่อรายงานของสื่อเอพีที่ระบุว่า เซเลนสกีกล่าวว่า การสิ้นสุดของสงครามที่เริ่มต้นจากการรุกรานของรัสเซียนั้น “ยังอยู่ห่างไกล ไกลมาก ๆ”
ทรัมป์ระบุในโพสต์ทางแพลตฟอร์มทรูธโซเชียลว่า “นี่คือแถลงการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เซเลนสกีจะออกมาได้ และอเมริกาจะยอมทนอีกไม่นาน” และว่า “อย่างที่ผมบอกเอาไว้ คน ๆ นี้ไม่ต้องการให้เกิดสันติภาพ ตราบได้ที่อเมริกายังหนุนหลังอยู่ และยุโรป ที่กำลังประชุมกับเซเลนสกีอยู่ ก็ระบุตรง ๆ แล้วว่า จะไม่สามารถทำอะไรได้ หากปราศจากสหรัฐฯ”
ทั้งนี้ เซเลนสกีกล่าวว่า การหยุดยิงนั้นจะต้องมีการรับประกันอย่างชัดเจนจากชาติตะวันตกว่า รัสเซียจะไม่โจมตียูเครนอีก หลังรุกรานประเทศเพื่อนบ้านเล็ก ๆ นี้เมื่อ 3 ปีก่อนและเวลานี้ ยึดครองอาณาเขตของยูเครนไว้ 20% แต่ทรัมป์ปฏิเสธที่จะให้การรับประกันที่ว่านี้
แนวคิดพักรบ 1 เดือนเพื่อทดสอบใจรัสเซีย
หลังการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปเมื่อวันอาทิตย์จบลง ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง ให้สัมภาษณ์กับสื่อเกี่ยวกับความน่าจะเป็นที่จะเกิดการหยุดยิงเป็นเวลา 1 เดือน แม้ว่าพันธมิตรอื่น ๆ ยังไม่ได้ออกมารับรองกันก็ตาม
ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า “การหยุดยิงทางอากาศ ทางทะเลและโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานจะเปิดทางให้เราตัดสินได้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน มีความจริงใจในการทำตามข้อตกลงหยุดยิงหรือไม่” และว่า “และนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจาสันติภาพที่แท้จริง”
สื่อ เลอ ฟิกาโร รายงานว่า ปธน.มาคร็องให้สัมภาษณ์ว่า จะมีการเคลื่อนพลทหารราบยุโรปเข้าไปในยูเครนในเฟสที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิงที่มีการเสนอไป
ตอนนี้ ผู้นำยุโรปยังคงพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่มีผู้ระบุว่า เป็นการพลิกกลับครั้งใหญ่ที่สุดของนโยบายกรุงวอชิงตันนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา หลังเซเลนสกีเดินทางออกจากทำเนียบขาวอย่างกะทันหัน ไม่นานหลังเกิดกรณีทรัมป์และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ เอ่ยปากตำหนิปธน.ยูเครนต่อหน้าผู้สื่อข่าวและกล้อง และไม่ได้มีการลงนามข้อตกลงเปิดทางให้สหรัฐฯ เข้าถึงสินแร่หายากของยูเครนดังที่มีการวางแผนไว้
ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว ระบุระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ ว่า เซเลนสกีต้องขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่ฟริดริค เมอร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนีคนใหม่ จากพรรคการเมืองสายอนุรักษ์นิยม ให้ความเห็นว่า การโต้เถียงที่เกิดขึ้นในห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) เมื่อวันศุกร์ที่แล้วเมื่อเซเลนสกีถูกกดดันต่อหน้าธารกำนัลให้ยอมรับทางออกทางการทูตของสหรัฐฯ เป็นกับดักที่มีการวางแผนไว้แล้ว และกล่าวว่า “มันไม่ใช่ปฏิกิริยาตอบกลับตามปกติวิสัยต่อการโต้เถียงของเซเลนสกี แต่ชัดเจนเลยว่าเป็นการยกระดับสถานการณ์ที่มีการเตรียมการไว้แล้ว”
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น