ศาลอุทธรณ์กลางของสหรัฐฯ ปฏิเสธคำร้องขอจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการคำสั่งศาลไปห้ามอัยการเขตแมนฮัตตัน ในนครนิวยอร์กซิตี้ ไม่ให้เข้าตรวจสอบข้อมูลการชำระและการรับเงินภาษีคืนย้อนหลังเป็นเวลา 8 ปี เพื่อใช้ประกอบการสอนสวนคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับตัวผู้นำสหรัฐฯ และธุรกิจต่างๆ
สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์เขต 2 ของสหรัฐฯ ที่แมนฮัตตัน มีมติ 3 ต่อ 0 ในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ปัดตกคำกล่าวหาของปธน.ทรัมป์ว่า หมายศาลจากคณะลูกขุนใหญ่ที่ออกโดย ไซรัส แวนซ์ อัยการเขตแมนฮัตตัน มีเนื้อหาครอบคลุมกว้างเกินไป หรือมีจุดประสงค์เพื่อก่อกวนตัวผู้นำประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลเคยปฏิเสธข้อโต้แย้งของผู้นำสหรัฐฯ ว่าตนมีเอกสิทธิ์คุ้มครองสำหรับการสืบสวนทางอาญา ในฐานะที่ยังปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบขาว แต่แนะนำว่า ปธน.สหรัฐฯ สามารถแย้งหมายศาลขอข้อมูลภาษีทั้งที่เป็นส่วนตัวและของธุรกิจ ที่ส่งไปยังบริษัทบัญชี มาซาร์ส ที่ให้บริการอยู่ได้
เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า ปธน.ทรัมป์ชำระภาษีรายได้ให้รัฐบาลกลางในปี ค.ศ. 2016 และปี ค.ศ. 2017 ปีละเพียง 750 ดอลลาร์ โดยไม่เคยเสียภาษีเลยเป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปีก่อนหน้านั้น โดยต่อมา ปธน.ทรัมป์ ออกมาตอบโต้รายงานชิ้นนี้ และทวีตข้อความว่า ตนเสียภาษีเป็นเงินหลายล้านดอลลาร์มาตลอด แม้ว่าจะไม่เคยเปิดเผยรายงานการชำระภาษีและการรับเงินภาษีคืนต่อสาธารณะเลย