สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตุลาการศาลสูงสหรัฐฯ มีท่าทีว่าจะเห็นเเตกต่างกัน ในการพิจารณาคดี ที่ต้องตัดสินว่าคณะทำงานของสภาผู้แทนที่พรรคเดโมเเครตคุมเสียงข้างมาก มีอำนาจหรือไม่ในการขอข้อมูลการเงินของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
รอยเตอร์รายงานเรื่องนี้ หลังจากที่ศาลสูงสหรัฐฯสรุปการรับฟังเหตุผลของทนายทั้งสองฝ่าย ในคดีนี้ซึ่งถูกมองว่าเป็นเครื่องทดสอบขอบเขตของอำนาจประธานาธิบดี
ตุลาการที่มักออกเสียงไปทางฝั่งอนุรักษ์นิยม และกำลังคุมเสียงข้างมากในคณะผู้พิพากษาศาลสูง ส่งสัญญาณเป็นกังวลถึงความไม่เหมาะสมของฝ่ายเดโมแครตในสภาผู้แทน ที่ต้องการให้ได้มาซึ่งข้อมูลการเงินของประธานาธิบดี ทรัมป์
อย่างไรก็ตาม ในอีกคดีหนึ่งที่อัยการรัฐนิวยอร์กต้องการให้ได้มาซึ่งข้อมูลแบบเดียวกัน ตุลาการสายอนุรักษ์นิยม เเสดงความสงสัยต่อเหตุผลของฝ่ายทนายโดนัลด์ ทรัมป์
ในคดีระหว่างทรัมป์ กับสภาผู้แทนฯ ฝ่ายของประธานาธิบดี ทรัมป์ ต้องการยับยั้งการขอดูข้อมูลของคณะทำงานของสภา ซึ่งเป็นข้อมูลการเงินของผู้นำสหรัฐฯ จากบุคคลที่สาม คือ บริษัททำบัญชี Mazars LLP กับธนาคารอีกสองแห่งคือ Deutsche Bank และCapital One
ตุลาการศาลสูงหลายคนถามคำถามหนักๆ ให้ทนายที่เป็นตัวแทนฝั่งสภาฯ ตอบคำถามว่า เหตุใดการขอเอกสารในกรณีนี้จึงไม่ได้เป็นการก่อกวนรังควาญ ประธานาธิบดี และถามด้วยว่า สภาควรถูกจำกัดอำนาจการขอข้อมูลใดๆ บ้างหรือไม่ โดยการขอข้อมูลอาจกระทบต่อการทำงานบริหารประเทศของผู้นำสหรัฐฯ
รอยเตอร์คาดว่าศาลจะมีคำวินัจฉัยในคดีเหล่านี้ ในอีกไม่กีสัปดาห์จากนี้
ทั้งนี้ประธานาธิบดี ทรัมป์ มิได้เปิดเผยแบบการยื่นภาษีของตน ซึ่งแตกต่างจากประธานาธิบดีคนอื่นๆของสหรัฐฯ เอกสารเหล่านั้นอาจชี้ให้เห็นถึงสถานะทางการเงินของเขา และธุรกรรมต่างของกิจการอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว