ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ประธานาธิบดีทรัมป์ปราศรัย "State of the Union" ครั้งแรก ขณะที่คะแนนนิยมต่ำเป็นประวัติการณ์


President Donald Trump, flanked by Vice President Mike Pence, left, and House Speaker Paul Ryan arrives on Capitol Hill in Washington for his address to a joint session of Congress, Feb. 28, 2017.
President Donald Trump, flanked by Vice President Mike Pence, left, and House Speaker Paul Ryan arrives on Capitol Hill in Washington for his address to a joint session of Congress, Feb. 28, 2017.

การกล่าวปราศรัยแสดงภาวะแห่งรัฐ และแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา หรือ State of the Union Address ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

และมีขึ้นราวหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ต้องปิดตัวลงสามวัน จากข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสถานะของ dreamers หรือกลุ่มเยาวชนที่พ่อแม่เดินทางเข้าประเทศหรืออยู่ในสหรัฐฯอย่างผิดกฎหมาย และประธานาธิบดีทรัมป์ได้มีคำสั่งยกเลิกการคุ้มครองไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว

ประธานาธิบดีทรัมป์พูดถึงเรื่องผลงานการสร้างงาน เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ขยายตัว การปรับกฎหมายเพื่อลดภาษีให้กับธุรกิจอเมริกัน รวมทั้งจะเรียกร้องให้รัฐสภาอนุมัติคำของบประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ลงทุนปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม เช่น ถนน สะพาน และสนามบินในสหรัฐฯ ด้วย

นอกจากนั้นแล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวถึงประเด็นเรื่องความมั่นคง เช่น โครงการพัฒนาจรวดขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ รวมทั้งข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ที่สหรัฐฯ ทำไว้กับอิหร่าน ในสมัย ปธน.โอบามา

ในช่วงหนึ่งปีที่เข้าดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีทรัมป์มักใช้บัญชีทวิตเตอร์ของตนโจมตีฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง รวมทั้งสื่อมวลชน แต่ทำเนียบขาวชี้ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีคำปราศรัยแถลงนโยบายซึ่งสร้างความหวังในแง่ดี และเรียกร้องให้พรรครีพับลิกันกับพรรคเดโมแครตทำงานร่วมกันด้วย

อย่างไรก็ตาม การกล่าวปราศรัยแสดงเป้าหมายการทำงานประจำปี หรือ State of the Union ครั้งนี้ มีขึ้นในขณะที่คะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ในระดับต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับสำหรับผู้นำฝ่ายบริหารคนใดในช่วงเวลาเดียวกัน คือหนึ่งปีหลังจากที่เข้ารับตำแหน่ง

กล่าวคือคะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ที่เพียง 38 เปอร์เซ็นต์ และในอีก 9 เดือนต่อจากนี้ ชาวอเมริกันจะไปออกเสียงเลือกตั้งกลางเทอมสำหรับรัฐสภาที่กรุงวอชิงตัน

ซึ่งหมายถึงว่าจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 435 ที่นั่งในสภาล่าง และอีกหนึ่งในสามสำหรับสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 100 คน

XS
SM
MD
LG