กลุ่มผู้ชุมนมประท้วงที่บริเวณท่าอากาศยาน เจเอฟเค ในนครนิวยอร์ก เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อคำสั่งพิเศษของฝ่ายบริหารที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ลงนามคำสั่งห้ามไม่ให้ชาวมุสลิมจาก 7 ประเทศ คือ ซีเรีย อิรัก อิหร่าน ซูดาน ลิเบีย โซมาเลีย และเยเมน เข้าสหรัฐฯ
คำสั่งดังกล่าว ลงนามโดยนายทรัมป์ เมื่อเวลา 22.30 น. เมื่อวันศุกร์ที่ 27 มกราคมที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐฯ และมีผลบังคับใช้ในทันที ต่อผู้คนกว่า 137 ล้านคนใน 7 ประเทศ ที่จะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าสหรัฐฯ แม้จะได้รับวีซ่าที่ถูกต้องมาก่อนหน้านี้ก็ตาม
มาตรการกลั่นกรองด้านการตรวจคนเข้าเมืองที่ประกาศใช้กระทันหันทำให้ผู้โดยสารจากหลายสายการบินที่เข้าข่ายต้องถูกกักตัวไว้ที่สนามบินไม่สามารถผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองได้ และต้องถูกส่งกลับ โดยคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้เบื้องต้นเป็นเวลา 90 วัน
การออกคำสั่งของ ประธานาธิบดี 'ทรัมป์' สร้างกระแสความไม่พอใจจากกลุ่มผู้อพยพ หรือผู้ที่มีเชื้อสายชาวต่างชาติ รวมทั้งกลุ่มเคลื่อนไหวด้านตรวจคนเข้าเมือง รวมตัวประท้วงที่ท่าอากาศยานเจเอฟเค ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา
ผู้คนจำนวนไม่น้อยอยู่ในภาวะตกใจ และไม่คาดคิดว่าจะมีคำสั่งปฏิบัติห้ามบุคคลจากประเทศดังกล่าวเข้าประเทศโดยกระทันหัน ขณะเดียวกันก็เกิดปฏิกิริยาอย่างกว้างขวางมีการประท้วงลุกลามไปไปยังท่าอากาศยานต่างๆ ทั้งในกรุงวอชิงตัน และนครอื่นๆเช่นกัน
ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังออกคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหาร ดังกล่าวว่า การคำสั่งไม่ใช่การแบน หรือการห้ามชาวมุสลิม แต่มีการเตรียมการมาแล้วล่วงหน้า และผลการปฏิบัติตามคำสั่งเป็นไปด้วยดี ซึ่งจะเห็นได้ที่สนามบินต่างๆ หรือ ทั่วไป ที่ประสบผลปฏิบัติด้วยดี'
ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวว่า ต่อไปนี้สหรัฐฯจะใช้ความเข้มงวดในข้อห้าม และจะมีการบังคับใช้มาตรการอย่างเข้มข้น หลังจากประเทศนี้ไม่ได้ใช้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
คำสั่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ รวมไปถึงการประกาศงดรับผู้อพยพเข้าสหรัฐฯเป็นเวลา 120 วัน ขณะที่ในรายละเอียดของคำสั่งที่ระบุว่าการห้ามผู้คนจาก 7 ประเทศเข้าสหรัฐฯเป็นเวลา 90 วันนั้น เพื่อต้องการปกป้องสหรัฐฯ จากกลุ่มชาวต่างชาติจากประเทศที่เกี่ยวข้องกับผู้ก่อการร้าย และต้องการเพิ่มมาตรการตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดมากขึ้น
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่า ในส่วนของผู้ถือกรีนการ์ด หรือ บัตรแสดงตนเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรในสหรัฐฯ นั้นจะพิจารณาให้เข้าประเทศเป็นรายกรณี และหากบุคคลเหล่านั้นเตรียมจะเดินทางออกนอกประเทศก็ต้องเตรียมตรวจสอบข้อมูลสำหรับมาตรการการกลั่นกรองด้านตรวจคนเข้าเมืองใหม่ หรือหากอยู่ต่างประเทศและกำลังจะเดินทางเข้าสหรัฐฯให้ตรวจสอบกับสถานกงสุลของสหรัฐฯในประเทศนั้นเพื่อตรวจสอบข้อมูลว่าสามารถเดินทางเข้าสหรัฐฯได้