สืบเนื่องจากกรณีที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์ว่า "แย่จริงๆ เพิ่งค้นพบว่าโอบาม่าสั่งดักฟังโทรศัพท์ที่อาคาร Trump Tower ก่อนที่ตนจะชนะเลือกตั้ง" จนก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ไปทั่วว่า เป็นการกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน
กรณีนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากตามกฎหมายสหรัฐฯ ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจสั่งให้มีการดักฟังโทรศัพท์พลเมืองอเมริกัน โดยการจะทำเช่นนั้นได้ต้องได้รับอนุญาตจากศาลของรัฐบาลกลาง และต้องมีหลักฐานชัดเจนว่าทำไมต้องลอบดักฟังโทรศัพท์ของพลเมืองผู้นั้น ไม่เช่นนั้นถือว่าผิดกฎหมาย
เวลานี้บรรดาที่ปรึกษาของทำเนียบขาวต่างออกมาปกป้องคำกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐานของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ดังกล่าว
โฆษกหญิงทำเนียบขาว ซาร่าห์ ฮัคเคอร์บี้ แซนเดอร์ส กล่าวว่า "ประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ต้องการรับฟังความเห็นของ ผอ.เอฟบีไอ นายเจมส์ โคมมี่ย์ ที่ว่าอดีตประธานาธิบดีโอบาม่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งดักฟังโทรศัพท์"
ขณะที่นายเจมส์ แคล็ปเปอร์ อดีต ผอ.ด้านข่าวกรองแห่งชาติในรัฐบาลชุดที่แล้ว ก็โต้แย้งข้อกล่าวหาของประธานาธิบดีทรัมป์เช่นกัน
ด้านโฆษกรัฐบาล ฌอน สไปเซอร์ ยืนยันว่า "ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้รัฐสภาสหรัฐฯ สืบสวนเรื่องนี้ทันที"
ส่วนนางเคลลี่แอนน์ คอนเลย์ ที่ปรึกษาของโดนัลด์ ทรัมป์ ชี้ว่า "มีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือระบุว่า มีแรงจูงใจทางการเมืองอยู่เบื้องหลังการดักฟังโทรศัพท์" และว่า "ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจมีแหล่งข้อมูลที่คนทั่วไปไม่อาจเข้าถึง"
ด้าน สส.พรรคเดโมแครต อดัม ชิฟฟ์ กล่าวว่า "ข้อกล่าวหาของทรัมป์นั้นเลื่อนลอย และอ้างอิงมาจากข่าวลือที่ไม่มีการพิสูจน์ ซึ่งถือว่าการที่ประธานาธิบดีทำเช่นนี้ เป็นการบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศ"
ส่วน สส.แนนซี่ เพโลซี่ ผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ ชี้ว่า "ทรัมป์พยายามเบี่ยงประเด็นไปจากเรื่องการสมคบคิดกับรัสเซียเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้ง ไปเป็นเรื่องของการดักฟังโทรศัพท์"
ก่อนหน้านี้ รายงานของหน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ ระบุว่ารัสเซียได้ลอบเจาะล้วงข้อมูลของพรรคเดโมแครตและนำมาเปิดเผยในช่วงก่อนการเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว รวมท้ังแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกมาปฏิเสธความเชื่อมโยงกับรัสเซีย แต่มีการเปิดเผยว่าที่ปรึกษาหลายคนของทรัมป์ได้พบปะกับทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตันจริง
