สหรัฐฯและเยอรมนีเปิดศึกน้ำลายบนเวทีประชุมนาโต้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวหาว่าเยอรมนีกำลังตกเป็นเชลยของรัสเซีย เพราะพึ่งพาด้านพลังงานจากรัสเซียมากเกินไป
การประชุมมื้ออาหารเช้าขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม นั้นเริ่มต้นอย่างเผ็ดร้อน ด้วยการที่ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวหาว่าเยอรมนี ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรป กำลังถูกควบคุมโดยสมบูรณ์จากรัสเซีย จากการที่เยอรมนีอนุญาตให้บริษัทพลังงานของรัสเซีย Gazprom เข้ามาสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติ Nord Stream 2 ในน่านน้ำของเยอรมนี
ทรัมป์ตั้งคำถามถึงหลักการของนาโต้กลางที่ประชุมด้วยว่า สมาชิกนาโต้จะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร เมื่อสมาชิกประเทศหนึ่งกำลังใช้พลังงานของประเทศที่นาโต้กำลังต่อต้าน โดยอ้างถึงเยอรมนีที่ต้องจ่ายเงินซื้อก๊าซธรรมชาติมูลค่าราว 10,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีให้กับรัสเซีย
ด้านนางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ตอบโต้การกล่าวหาของผู้นำสหรัฐฯในเวลาต่อมาว่า เธอทราบดีถึงชีวิตที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสหภาพโซเวียตในอดีต แต่ข้อตกลงด้านพลังงานกับรัสเซียนั้น ไม่ได้ทำให้เยอรมนีตกอยู่ในอาณัติของรัสเซียอย่างที่เข้าใจ และว่าเยอรมนีเป็นประเทศที่มีอิสระด้านการกำหนดนโยบาย และการตัดสินใจ
ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี เฮโก มาส ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเวทีประชุมนาโต้ว่าเยอรมนีไม่ใช่จำเลยของรัสเซียหรือสหรัฐฯ และเยอรมนีตั้งเป้าจะเพิ่มงบประมาณด้านการทหารให้ได้ถึงร้อยละ 80 ภายในปี ค.ศ. 2024 ซึ่งเป็นระดับที่มีความสำคัญ
การเคลื่อนไหวของทรัมป์ มีขึ้นเพื่อเรียกร้องให้ชาติสมาชิกอีก 28 ชาติปฏิบัติตามพันธสัญญาของนาโต้ ในการจัดสรรงบประมาณด้านการทหารในสัดส่วนร้อยละ 2 ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของแต่ละชาติ แต่ก็มีหลายประเทศที่ไม่ทำตามข้อตกลงดังกล่าว