ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงผ่านการถ่ายทอดสดในวันพุธ โดยระบุว่า การโจมตีฐานทัพในอิรักโดยอิหร่านไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของทหารอเมริกัน
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า อเมริกันเตรียมตัวที่จะดำเนินการใด ๆ ก็ตาม เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่อไปจากนี้ โดยจะไม่มีการใช้กำลังทางทหารตอบโต้ แต่จะใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมต่อรัฐบาลเตหะรานโดยทันที พร้อมเรียกร้องให้ประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ ทำความตกลงกับอิหร่านฉบับใหม่ที่ทำให้โลกสงบสุขขึ้น
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า ตนจะเสนอให้องค์การสนธิสัญญาแอตเเลนติกเหนือหรือนาโต้ มีบทบาทมากขึ้นในสถานการณ์ตะวันออกกลาง และว่า สหรัฐฯ ต้องการให้ประชาชนและผู้นำของอิหร่านมีอนาคตที่ดีตามที่ควรได้รับ รวมทั้งมีความรุ่งเรืองและสันติภาพที่สอดคล้องกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
เมื่อคืนนี้ตามเวลาสหรัฐฯ ฐานทัพสองแห่งในอิรัก ซึ่งมีทหารอเมริกันประจำการอยู่ถูกโจมตีทางอากาศหลายครั้ง
กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน หรือ IRGC อ้างความรับผิดชอบในการยิงขีปนาวุธนำวิถีกว่าสิบนัด เพื่อถล่มฐานทัพอากาศในอิรัก
แถลงการณ์ของผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการสาธารณะ โจนาธาน ฮอฟฟ์แมน ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. ตามเวลาในสหรัฐฯ อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธนำวิถีมากกว่า 10 ลูก ใส่กองกำลังทหารสหรัฐฯ และพันธมิตร ในอิรัก ซึ่งเป็นที่แน่ชัดว่าขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงจากอิหร่าน และมีเป้าหมายไปที่ฐานทัพสองแห่ง คือ ฐานทัพอากาศ อัล-อะซาด และฐานทัพเออร์บิล ทางตะวันตกของอิรัก
ฐานทัพในอิรักเป็นหนึ่งในพื้นที่ในตะวันออกกลางที่มีการยกระดับการเตรียมพร้อมขั้นสูงสุดตั้งแต่ช่วงค่ำคืนวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐฯ หลังจากมีรายงานจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ว่าอาจมีการโจมตีโดยโดรนจากอิหร่าน
ขณะที่สื่อของรัฐบาลอิหร่าน รายงานด้วยว่า กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน หรือ IRGC ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการยิงขีปนาวุธหลายสิบนัดเพื่อโจมตีฐานทัพอากาศสหรัฐฯ อัล-อะซาด ที่ประจำการในอิรัก พร้อมทั้งขู่ว่าจะมีการโจมตีที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม และขยายวงกว้างไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง หลังจากอเมริกาใช้โดรนสังหารนายพลกาส์ซิม สุไลมานีของอิหร่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
