ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สั่งปลดที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงประจำทำเนียบขาว จอห์น โบลตัน จากประเด็นความขัดแย้งเชิงนโยบายที่รุนแรง โดยเฉพาะนโยบายต่างประเทศ ทั้งเรื่องเกาหลีเหนือ อิหร่าน อัฟกานิสถาน และรัสเซีย
ผู้นำสหรัฐฯ ทวีตข้อความเมื่อวันอังคาร ระบุว่า เขาได้แจ้งกับนายโบลตันให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติเมื่อค่ำคืนวันจันทร์ และว่าเขาไม่เห็นด้วยอย่างมากกับคำแนะนำหลายอย่างของนายโบลตัน เช่นเดียวกับคณะทำงานคนอื่นๆที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของนายโบลตัน พร้อมทั้งเพิ่มเติมว่าจะมีการเปิดเผยผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนนายโบลตันในสัปดาห์หน้า
ขณะที่นายโบลตัน ได้ทวีตข้อความว่า เขาได้ยื่นหนังสือลาออกเมื่อคืนวันอังคาร และประธานาธิบดีกลับบอกว่า เดี๋ยวค่อยมาคุยกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่ทรัมป์จะมีทวีตดังกล่าวขึ้นในวันอังคาร
นายจอห์น โบลตัน ได้รับเลือกจากประธานาธิบดีทรัมป์ ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แทนพลโท เอช อาร์ แม็คมาสเตอร์ (H.R. McMaster) เขาเคยเป็นอดีตทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ นอกจากนี้ยังเคยดำรงตำแหน่ง รองรัฐมนตรีต่างประเทศ ฝ่ายกิจการควบคุมอาวุธและความมั่นคงระหว่างประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศต่างเห็นตรงกันว่าเขาคือนักการทูต "สายเหยี่ยว" ผู้นิยมแนวทางแข็งกร้าวทางทหารมากกว่าการเจรจาทางการทูต และมีหลายครั้งที่ผู้นำสหรัฐฯ มักจะพูดติดตลกถึงภาพลักษณ์ของนายโบลตันว่าเป็นผู้กระหายสงคราม
ตลอดการดำรงตำแหน่งของนายโบลตัน เขาได้กดดันผู้นำสหรัฐฯให้คงท่าทีแข็งกร้าวกับเกาหลีเหนือ แม้จะเปิดทางให้มีการเจรจาสันติภาพในอีกด้านหนึ่งก็ตาม รวมทั้งยังเป็นผู้กำหนดท่าทีของสหรัฐฯกับอิหร่าน รัสเซีย รวมทั้งล่าสุดกับอัฟกานิสถาน ที่สหรัฐฯยกเลิกการเจรจาลับกับกลุ่มหัวรุนแรงทาลีบานในอัฟกานิสถานด้วย
ด้านแหล่งข่าวในทำเนียบขาวให้ข้อมูลว่า นายสตีเฟน บีกัน (Stephen Biegun) ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ด้านกิจการเกาหลีเหนือ และนายจอห์น ซัลลิแวน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศ อยู่ในการพิจารณาให้มาดำรงตำแหน่งนี้แทนนายโบลตันด้วย