ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศความต้องการให้สหรัฐฯ เข้ายึดครองฉนวนกาซ่า และเข้าไปพัฒนาดินแดนดังกล่าวเสียใหม่ หลังจากให้ชาวปาเลสไตน์ผู้พลัดถิ่นจากสงครามย้ายถิ่นฐานถาวรไปประเทศอื่น ๆ
ผู้นำสหรัฐฯ ต้อนรับการมาเยือนกรุงวอชิงตันของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ที่ทำเนียบขาว ในวันอังคาร ท่ามกลางความคาดหมายว่าการหารือของทั้งสองจะแตะประเด็นความสัมพันธ์อิสราเอลและซาอุดีอาระเบีย ความกังวลเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน และการหารือเรื่องเฟสสองของข้อตกลงหยุดยิงกาซ่าที่เป็นวาระสำคัญในการพบกันของทั้งคู่
ทรัมป์ ได้กล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับเนทันยาฮูว่า “สหรัฐฯ จะเข้าควบคุมฉนวนกาซ่า” รวมทั้งจะเข้ามารับผิดชอบในการจัดการระเบิดที่ยังไม่จุดชนวนและอาวุธอันตรายต่าง ๆ ในพื้นที่ และจะเข้าไปพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ด้วย โดยที่ทรัมป์ไม่ได้ลงรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติมในทันทีว่าสหรัฐฯ จะเข้าบริหารจัดการดินแดนปาเลสไตน์อย่างไรต่อไป
ทั้งนี้ เนทันยาฮูถือเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่มาพบหารือกับทรัมป์ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสหรัฐฯ ในสมัยที่ 2 การเยือนกรุงวอชิงตันของเนทันยาฮู เกิดขึ้นในเวลาที่ผู้นำอิสราเอลเผชิญแรงกดดันจากพรรคร่วมฝ่ายขวา ที่ต้องการให้ยกเลิกข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสในกาซ่า ประเด็นคดีทุจริตที่รุมเร้า และคะแนนความนิยมในตัวผู้นำอิสราเอลที่ตกต่ำ
เมื่อวันจันทร์ เนทันยาฮู หารือกับ ทูตพิเศษด้านกิจการตะวันออกกลางของประธานาธิบดีทรัมป์ สตีฟ วิทคอฟฟ์ เกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในเฟสสอง ซึ่งผู้นำอิสราเอลออกแถลงการณ์ระบุว่าการพบกันของทั้งสองนั้นเป็นไป “ในเชิงบวกและเป็นมิตร” โดยอิสราเอลจะส่งตัวแทนไปกาตาร์เพื่อเดินหน้าการหารือกับฮามาสผ่านตัวกลางเจรจาต่อไป
ทูตพิเศษด้านกิจการตะวันออกกลางของประธานาธิบดีทรัมป์ สตีฟ วิทคอฟฟ์ กล่าวในวันอังคารว่ากรอบเวลา 3-5 ปีในการฟื้นฟูกาซ่า ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ระบุไว้ในข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวในดินแดนปาเลสไตน์นั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ระหว่างที่คณะทำงานทรัมป์ได้ยืนยันข้อเรียกร้องให้ชาติอาหรับรับผู้พลัดถิ่นปาเลสไตน์ไปจากกาซ่าที่เสียหายหนักสงคราม
วิทคอฟฟ์ กล่าวว่า “สำหรับผมแล้ว มันไม่ยุติธรรมที่จะอธิบายกับชาวปาเลสไตน์ว่าพวกเขาจะกลับมาในอีก 5 ปีข้างหน้าได้ ... มันเป็นเรื่องที่ประหลาดมาก”
ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องของคณะทำงานทรัมป์ที่ให้ชาติอาหรับรับชาวปาเลสไตน์ผู้พลัดถิ่นจากสงครามกาซ่า มีขึ้นก่อนที่ทรัมป์จะพบกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ในวันอังคาร ซึ่งเป็นสิ่งที่อียิปต์ จอร์แดน และชาติอาหรับอื่น ๆ ออกมาคัดค้าน
ก่อนการพบกับเนทันยาฮู ทรัมป์ได้เรียกร้องอีกครั้งให้ชาวปาเลสไตน์ย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเรียกร้องอียิปต์และจอร์แดนให้รับชาวกาซ่าเข้าไป และว่าพวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากออกไปจากฉนวนกาซ่าที่กำลังจะฟื้นฟูขึ้นใหม่หลังสงคราม
ในการหารือที่ทำเนียบขาว ทรัมป์ได้กล่าวถึงเรื่องนี้อีกครั้งกับเนทันยาฮู โดยระบุว่า “คุณไม่สามารถอยู่ในกาซ่าได้ในตอนนี้ และผมคิดว่าเราต้องการพื้นที่อื่น” และกล่าวถึงการย้ายถิ่นฐานอย่างถาวรของชาวปาเลสไตน์ในสงครามนี้
ส่วนเนทันยาฮู ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวก่อนการหารือกับทรัมป์ว่า เมื่อถูกถามว่าจะเดินหน้าข้อตกลงหยุดยิงในเฟสสองหรือไม่ว่า ตนสนับสนุน “การนำตัวประกันทั้งหมดออกมา และบรรลุเป้าหมายสงครามของอิสราเอลโดยทั้งหมด “ซึ่งรวมถึงการทำลายกองทัพและอำนาจการปกครองของฮามาส และทำให้แน่ใจว่าจะไม่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลอีกต่อไป”
ในโอกาสนี้ ทรัมป์และเนทันยาฮูมีกำหนดการหารือเรื่องยุทธศาสตร์กับอิหร่าน ซึ่งคาดว่าเนทันยาฮูจะกดดันทรัมป์ให้ดำเนินมาตรการที่เด็ดขาดกับอิหร่านเช่นกัน โดยที่ผ่านมารัฐบาลเตหะรานเผชิญกับความพ่ายแพ้ทางการทหารหลายครั้ง รวมทั้งในกาซ่าและเลบานอน ซึ่งเนทันยาฮูเชื่อว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าจัดการอย่างเด็ดขาดกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้
เอย์ตัน กิลโบ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์สหรัฐฯ-อิสราเอล แห่ง Bar-Ilan University ใกล้กับกรุงเทลอาวีฟ กล่าวกับเอพีว่า “นี่คือการหารือสำคัญระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายกฯอิสราเอล .. ซึ่งมีเดิมพันไม่เพียงแค่ความสัมพันธ์ทวิภาคีอิสราเอล-สหรัฐฯ แต่ยังเป็นการเปลี่ยนโฉมของตะวันออกกลางด้วย”
- ที่มา: เอพี, รอยเตอร์
กระดานความเห็น