ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันอาทิตย์ แสดงความมั่นใจว่ารัฐบาลเม็กซิโกจะยอมจัดทำข้อตกลงฉบับใหม่ที่จะนำไปสู่การสกัดกั้นขบวนผู้อพยพเข้าเมืองที่เดินทางผ่านเม็กซิโกมายังพรมแดนสหรัฐฯ
ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า เป็นเวลานานหลายปีแล้วที่เม็กซิโกไม่ให้ความร่วมมือในการสกัดกั้นขบวนผู้อพยพดังกล่าว แต่เชื่อว่าข้อตกลงฉบับใหม่จะทำให้เม็กซิโกยินดีให้ความร่วมมือมากขึ้น ไม่เช่นนั้นสหรัฐฯ จะกลับไปใช้มาตรการขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก ซึ่งตนหวังว่าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น
ข้อตกลงที่ประกาศเมื่อวันศุกร์ ระบให้รัฐบาลเม็กซิโกส่งกำลังทหาร 6,000 คนไปยังชายแดนติดกับกัวเตมาลา เพื่อสกัดกั้นขบวนคาราวานผู้อพยพจากอเมริกากลาง ในขณะที่สหรัฐฯ จะมีอำนาจเพิ่มขึ้นในการบังคับให้ผู้ที่ทำเรื่องขอลี้ภัยในสหรัฐฯ ต้องอาศัยอยู่ในเม็กซิโกนานขึ้นในขณะที่กำลังรออนุมัติเอกสารรับรองการลี้ภัยในสหรัฐฯ
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า ยังมีเงื่อนไขสำคัญอีกอย่างหนึ่งในข้อตกลงดังกล่าวซึ่งจะประกาศให้ทราบในช่วงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
ปธน.ทรัมป์ ทวีตว่า ข้อตกลงนี้ถือเป็นความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงหลายสิบปี และว่า ตนมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อได้เจรจากับประธานาธิบดีของเม็กซิโกเมื่อวันเสาร์
ด้านรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ นายเคมิน แม็คอาลีนาน กล่าวกับรายการข่าว Fox News Sunday ว่า ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ แต่คำขู่ของ ปธน.ทรัมป์ ว่าจะขึ้นภาษี 5% กับสินค้าจากเม็กซิโกนั้นใช้ได้ผล เพราะทำให้เม็กซิโกยอมเข้าสู่การเจรจาพร้อมยื่นข้อเสนอให้กับสหรัฐฯ
และว่า สหรัฐฯ มีเครื่องมือที่สามารถใช้ตรวจสอบได้ว่าเม็กซิโกจะปฏิบัติตามข้อตกลงนี้หรือไม่ รวมถึงผลที่จะเกิดขึ้นคือจำนวนผู้อพยพที่ลดน้อยลงในอนาคตด้วย