ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จีนยังคงต้องการเจรจาการค้ารอบใหม่กับสหรัฐฯ และว่าจีนจะต้องเสียใจที่จีนพยายามแก้ไขข้อตกลงการเจรจาที่ใกล้จะบรรลุ
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวที่ทำเนียบขาวว่า หากทีมเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯจะต้องกลับมาหารือกันอีกครั้ง ก็คงจะไม่เป็นการหารืออย่างที่ผ่านมา และการปรับขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ ทำให้ผู้ประกอบการในจีนต้องย้ายฐานการผลิตออกไปประเทศอื่นๆ แต่ส่งผลต่อเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ระดับเล็กน้อยเท่านั้น
การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนเพิ่งยุติลงไปเมื่อเร็วๆนี้ แต่รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สตีเวน มนูชิน กล่าวว่าเขามีแนวโน้มจะเดินทางไปกรุงปักกิ่งในอนาคตอันใกล้เพื่อเจรจาการค้าต่อ ขณะที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ จาง ฮันฮุ่ย กล่าวว่าสหรัฐฯ กำลังก่อการร้ายทางเศรษฐกิจอย่างโจ่งแจ้งในข้อพิพาททางการค้าครั้งนี้ รวมทั้งกล่าวหาคณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์ว่าเป็น “อันธพาลทางเศรษฐกิจ” และแม้ว่าจีนไม่ได้ต้องการให้เกิดสงครามการค้า แต่ก็ไม่ได้กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับมัน
การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และสหรัฐฯได้เดินหน้าขึ้นภาษีจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนได้ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยการที่สหรัฐฯ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมด ส่วนจีนก็ออกมาเตือนว่าจะยุติการส่งออกสินแร่หายากมายังสหรัฐฯ หากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนยกระดับความรุนแรงขึ้น