รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จิม แมททิส (Jim Mattis) ปฏิเสธคำวิจารณ์ที่ว่า การส่งทหารกว่า 5,200 คน ไปยังชายแดนทางภาคใต้ของสหรัฐฯ ติดกับเม็กซิโก เพื่อสกัดกั้นขบวนคาราวานผู้อพยพนั้น ไม่ใช่ "การจัดฉากทางการเมือง" เพื่อช่วยให้พรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้งแต่อย่างใด
พลเอกแมททิส กล่าวต่อผู้สื่อข่าวที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ว่า "เราไม่มีการจัดฉากในกระทรวงนี้ แต่การส่งทหารไปยังชายแดนนั้นเป็นไปตามคำขอของศุลกากรและตำรวจชายแดน เพื่อสนับสนุนการทำงานของกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐฯ"
ด้านเจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ กล่าวกับ VOA ว่า นอกจากทหารกว่า 5,200 คนที่ถูกส่งไปประจำการตามแนวพรมแดนแล้ว ยังมีการเพิ่มกำลังสำรองอีก 2,000 คนเพื่อเตรียมพร้อมในกรณีฉุกเฉินด้วย
โดยขณะนี้มีกองกำลังสำรองพิเศษ หรือ เนชั่นแนล การ์ด (National Guard) ประจำการอยู่ตามพรมแดนทางใต้แล้ว 2,100 คน ซึ่งทำให้เวลานี้สหรัฐฯ มีทหารประจำอยู่ที่ชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก มากกว่าจำนวนทหารอเมริกันที่ต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายในอิรักและซีเรีย
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันพุธว่า "ในที่สุดแล้วจะมีทหารประจำการบริเวณแนวพรมแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก ทั้งหมด ราว 10,000 - 15,000 คน"
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า ขบวนคาราวานจากประเทศแถบอเมริกากลางที่ยากจน ซึ่งกำลังมุ่งหน้ามายังชายแดนสหรัฐฯ นั้น เต็มไปด้วยบุคคลอันตราย ที่พร้อมต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ในประเทศต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ขบวนคาราวานชุดแรกซึ่งมีจำนวนราว 4,000 คนนั้นยังอยู่ที่เมืองฮูชิทัน ทางใต้ของเม็กซิโก ซึ่งห่างจากชายแดนสหรัฐฯ ราว 1,400 กิโลเมตร
ขณะที่ขบวนคาราวานชุดที่สองที่มีสมาชิกราว 2,000 คน กำลังพยายามข้ามพรมแดนกัวเตมาลาเข้าไปในเม็กซิโก ห่างจากชายแดนสหรัฐฯ ราว 1,850 กิโลเมตร
ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ พยายามชูประเด็นเรื่องขบวนคาราวานผู้ลี้ภัยและคนเข้าเมืองผิดกฎหมายนี้ เพื่อหาเสียงสนับสนุนให้กับสมาชิกพรรครีพับลิกัน ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้