ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน พบหารือผ่านวิดีโอออนไลน์กับบรรดาผู้ว่าการรัฐต่าง ๆ ในวันพฤหัสบดี เพื่อหารือในประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะการควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัส แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงพยายามต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อพลิกผลเลือกตั้ง และไม่ยินยอมให้เกิดกระบวนการส่งมอบอำนาจก็ตาม
นายไบเดนหารือกับผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แอนดรูว์ คูโอโม, ผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอ อาซา ฮัทชิสัน และผู้นำของมลรัฐอื่น ๆ เพื่อหาทางรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขต่างขอร้องให้รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ยินยอมให้เกิดกระบวนการส่งมอบอำนาจการทำงานสู่คณะทำงานของนายไบเดน เพื่อให้สามารถเดินหน้ารับมือกับการระบาดของโควิด-19 ได้อย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อวันพุธ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ประกาศว่า "การต่อสู้กับโคโรนาไวรัสไม่ต่างจากการทำสงคราม และจำเป็นต้องมีผู้บัญชาการสูงสุด"
นายไบเดนกล่าวระหว่างงานเสวนาออนไลน์กับบรรดาเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขผู้ต่อสู้กับเชื้อโคโรนาไวรัส โดยชี้ว่า "ตนอาจจะทำงานผิดพลาด แต่ขอสัญญาว่าจะยอมรับเพื่อแก้ไข และจะแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่"
นายไบเดนกล่าวว่า เมื่อตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ตนจะสั่งการให้ผู้ว่าการรัฐต่าง ๆ บังคับใช้มาตรการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่างทางสังคม ตลอดจนตรวจหาเชื้อและติดตามตรวจสอบเส้นทางการแพร่ระบาดอย่างอย่างแข็งขัน และจะใช้กฎหมายการบังคับบัญชาด้านความมั่นคง เพื่อให้ประธานาธิบดีมีอำนาจสั่งการเต็มที่
นอกจากนี้ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังรับปากว่าจะหาทางช่วยให้เด็ก ๆ ได้กลับเข้าโรงเรียนเพื่อไม่ให้ล้าหลังในการเรียนรู้ และจะแก้ไขปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นในการป้องกันการระบาดของโควิด-19 ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ
ขณะเดียวกัน นายไบเดนกล่าวตำหนิสำนักงานบริหารจัดการทั่วไปของสหรัฐฯ หรือ GSA ที่ยังไม่ยอมรับว่าตนเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางยังไม่สามารถทำงานร่วมกับคณะส่งมอบอำนาจประธานาธิบดี เพื่อดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ด้วย
จนถึงขณะนี้ ปธน.ทรัมป์ ยังคงไม่อนุญาตให้คณะทำงานของนายไบเดนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลสำคัญต่าง ๆ รวมทั้ง "รายงานประเมินสถานการณ์ด้านข่าวกรองประจำวันสำหรับประธานาธิบดี" ว่ามีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นที่จุดใดบนโลกบ้าง ตลอดจนไม่สามารถเข้าถึงการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ
โดยเมื่อวันพุธ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงทวีตข้อความมาจากทำเนียบขาว เน้นย้ำว่าตนเป็นผู้ชนะการเลืิอกตั้งเมือวันที่ 3 พ.ย. พร้อมยืนยันอีกครั้งว่า "เกิดการโกงเลือกตั้งไปทั่วประเทศ" ซึ่งทางทวิตเตอร์ติดคำเตือนที่ทวีตดังกล่าวว่า "แหล่งข่าวหลายแห่งระบุผลการเลือกตั้งที่แตกต่างออกไป"
สื่อหลายสำนักในสหรัฐฯ ต่างรายงานว่าไม่พบหลักฐานเพียงพอบ่งชี้ว่ามีการทุจริตเลือกตั้งมากมายดังที่ทีมกฎหมายของประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวอ้าง มีเพียงความผิดปกติบางอย่างในบางพื้นที่ซึ่งหากประธานาธิบดีทรัมป์ชนะการฟ้องร้องก็ยังไม่เพียงพอพลิกผลการเลือกตั้งได้