ธุรกิจท่องเที่ยวสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าปีละหลายล้านล้านดอลลาร์ กำลังเตรียมรับผลกระทบจากนโยบายห้ามชาวมุสลิมจากเจ็ดประเทศ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
เนื่องจากนักท่องเที่ยวมักจะวางแผนสำหรับการเดินทางช่วงฤดูร้อนล่วงหน้าอย่างน้อย 90 วัน
และบรรยากาศของการไม่ต้อนรับชาวต่างชาติ รวมทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กำลังแข็งตัว จะส่งผลให้ตลาดท่องเที่ยวของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงได้
บริษัท ForwardKeys ผู้รวบรวมข้อมูลด้านการเดินทาง เปิดเผยว่าการจองบัตรโดยสารทางอากาศไปยังสหรัฐฯ ในช่วงที่นโยบายจำกัดชาวมุสลิมของประธานาธิบดีทรัมป์มีผลบังคับใช้เพียงหนึ่งสัปดาห์ ได้ลดลง 6.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้
และสมาคม Global Business Travel Association ประมาณว่า การใช้จ่ายของผู้เดินทางไปสหรัฐฯ ด้วยวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ ที่ลดลงทุก 1% จะส่งผลให้ผลผลิต GDP ของสหรัฐฯ ลดลงปีละราว 5,000 ล้านดอลลาร์ และทำให้มีคนตกงานถึง 71,000 คน
นักวิเคราะห์นโยบายการค้าของสถาบัน CATO ชี้ว่า ถึงแม้คำมั่นสัญญาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่องการลงทุนเพื่อปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ อาจสร้างงานได้บ้าง แต่การห้ามชาวมุสลิมจะส่งผลกระทบต่อคนทำงานผู้มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้าน เช่น ในสาขาเทคโนโลยี
และส่งผลให้บริษัทข้ามชาติที่ต้องการเปิดสาขาในสหรัฐฯ รวมทั้งบริษัทอเมริกันที่ต้องการขยายกิจการในต่างประเทศ อาจต้องระงับแผนดังกล่าว
เนื่องจากเกรงปัญหาความไม่สะดวกสำหรับการเดินทางเข้าออกสหรัฐฯ สำหรับพนักงานของตน
