ฮาวาย ไข่มุกงามกลางมหาสมุทรแปซิฟิคเป็นดินแดนในฝันสำหรับนักท่องเที่ยว คู่รักฮันนีมูน รวมทั้งนักจัดประชุมจากความงามตามธรรมชาติที่มีพร้อมเสนอให้ทั้งในรูปของน้ำทะเลสวยสีคราม ม้วนคลื่นลูกโต หาดทรายขาวสะอาด อากาศบริสุทธิ์และขุนเขาทะมึนเขียวชอุ่มอันน่าค้นหา นอกเหนือไปจากวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจด้วย อย่างไรก็ตามข้อแลกเปลี่ยนสำหรับการย่างเท้าไปเยือนรัฐฮาวายในช่วงนี้คือการต้องถูกกักตัว 14 วัน
เมื่อปลายเดือนมีนาคมในช่วงต้นของการระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐ รัฐฮาวายมีคำสั่งกำหนดให้ผู้ใดก็ตามที่เดินทางเข้าไปต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน มาตรการที่ว่านี้แม้จะค่อนข้างรุนแรงและล้ำหน้ากว่าของรัฐอื่นแต่ผู้ว่าการเดวิดไอกี้ของรัฐก็บอกว่าจำเป็นเพื่อปกป้องสุขภาพและช่วยให้เศรษฐกิจของรัฐท่องเที่ยวแห่งนี้สามารถฟื้นตัวได้ในระยะยาว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคู่ฮันนีมูนจากรัฐแคลิฟอร์เนียคู่หนึ่งถูกจับในรัฐฮาวายเพราะฝ่าฝืนคำสั่งที่ให้กักตัวเองอยู่ในห้องพัก 14 วันโดยหนุ่มสาวคู่นี้ได้รับคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ของโรงแรมจากการละเมิดคำสั่งครั้งแรกและหลังจากที่ละเมิดคำสั่งห้ามเป็นครั้งที่สองในวันรุ่งขึ้นก็ถูกตำรวจควบคุมตัว และเมื่อปลายเดือนเมษายนชายหญิงจากต่างรัฐอีกคู่หนึ่งก็ถูกจับหลังจากที่หนีออกจากห้องพักโรงแรมไปช๊อปปิ้งเช่นกัน
ตามกฎของรัฐฮาวายนั้นผู้เดินทางไปถึงจะต้องกรอกแบบฟอร์มระบุข้อมูลการติดต่อรวมทั้งที่พักและลงนามยอมรับว่าการฝ่าฝืนกฎเรื่องการกักตัวเองเป็นความผิดอาญาซึ่งจะมีโทษปรับ 5,000 ดอลลาร์หรือราว 150,000 บาทและมีโทษจำคุกอย่างสูงหนึ่งปี โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่สนามบินจะทดลองโทรเข้าตามหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้เพื่อทดสอบรวมทั้งจะตรวจสอบกับทางโรงแรมด้วยว่าผู้เดินทางดังกล่าวมีกำหนดเข้าพักจริงหรือไม่ และนอกจากจะมีการโทรศัพท์ตรวจสอบจากตำรวจ จากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและจากเจ้าหน้าที่ของโรงแรมเป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่าผู้มาเยือนกักตัวอยู่ในห้อง 14 วันตามกฎอย่างแท้จริงแล้ว โรงแรมบางแห่งถึงกับให้คีย์การ์ดเข้าห้องพักที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียวในช่วง 14 วันซึ่งก็หมายถึงว่าถ้าออกจากห้องแล้วจะไม่สามารถกลับเข้าห้องได้อีก เจ้าหน้าที่ของรัฐฮาวายที่คอยดูแลกวดขันเรื่องนี้อาจจะยอมผ่อนปรนสำหรับผู้ที่ละเมิดกฎครั้งแรกแต่จะดำเนินการอย่างจริงจังกับผู้ที่ตั้งใจฝ่าฝืนซ้ำสอง โดยโฆษกตำรวจของนครฮอนโนลูลูบอกว่ามาตรการเหล่านี้มีความจำเป็นเพื่อช่วยให้ทุกคนปลอดภัยและไม่มีการแพร่เชื้อโควิด-19 ในรัฐฮาวาย
ถึงแม้มาตรการเข้มข้นของรัฐฮาวายดูจะสวนทางกับภาพลักษณ์ของการเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการมีวัฒนธรรมที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้ไปเยือนก็ตาม แต่นายกเทศมนตรีของนครฮอนโนลูลูก็บอกว่าเรื่องนี้มีความจำเป็น และว่านักท่องเที่ยวควรเข้าใจว่าการมาชื่นชมธรรมชาติและทรัพยากรของรัฐนั้นไม่ควรเกิดขึ้นพร้อมกับความเสี่ยงของการแพร่เชื้อโควิด-19 ในชุมชน และถึงแม้รัฐฮาวายจะยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวก็ตาม แต่เราก็อยากให้นักท่องเที่ยวยังไม่มาเยือนจนกว่าจะถึงเวลาปลอดภัยที่จะกลับมาเดินทางได้อีกครั้ง