บริษัทรถยนต์โตโยต้าจะลงทุนในบริษัทอูเบอร์ ผู้ให้บริการเรียกรถรับส่งผ่านแอพ เป็นเงินมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมพัฒนายนตรกรรมที่ขับเคลื่อนเองด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หรือ self-driving vehicles
ขณะนี้อุตสาหกรรมรถยนต์เดินหน้าเรื่องเทคโนโลยีรถขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติอย่างรวดเร็ว แต่โตโยต้าถูกมองว่ายังตามหลังคู่แข่ง เช่น บริษัทรถยนต์ เจเนรัล มอเตอร์ส ของสหรัฐฯ ที่ร่วมมือในโครงการด้านนี้กับ Waymo ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือเดียวกับกูเกิ้ล
ขณะเดียวกัน อูเบอร์ได้เริ่มทดลองเทคโนโลยี self-driving vehicles ไปแล้ว แต่ถูกสั่งให้ระงับการใช้รถที่มีระบบดังกล่าวบนท้องถนนหลายร้อยคันเมื่อเดือนมีนาคม หลังจากเกิดอุบัติเหตุมีคนเดินถนนถูกรถที่อูเบอร์ใช้ทดลอง ชนเสียชีวิตหนึ่งราย ที่เมืองเทมเป รัฐแอริโซนา
การรับแผนลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ของโตโยต้านี้ น่าจะแสดงให้เห็นว่าอูเบอร์ต้องการพันธมิตรผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ แทนที่จะลุยเดี่ยวบนเส้นทางธุรกิจรถขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติ ภายใต้การนำของซีอีโอของอูเบอร์คนปัจจุบัน นาย ดารา โคสโรว์ชาฮี (Dara Khosrowshahi)
ผู้บริหารอูเบอร์เห็นความสำคัญของนวัตกรรม self-driving vehicles เนื่องจากเชื่อว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการให้บริการรถรับส่งผู้โดยสาร
ที่ผ่านมา โตโยต้าไม่เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีนี้รวดเร็วเท่าที่ควร เพราะมุ่งความพยายามไปที่การสร้างระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติแทน
อย่างไรก็ตาม บริษัทกล่าวว่าเตรียมที่จะเริ่มทดสอบรถพลังงานไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองในอีก 2 ปีจากนี้
ผู้สนับสนุนเทคโนโลยีนี้มองว่า self-driving vehicles ปลอดภัยกว่ารถยนต์ที่ขับโดยมนุษย์ เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์จดจ่ออยู่กับภารกิจขับเคลื่อนพาหนะและทำตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
แต่ผู้ต่อต้านยังคงกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของการให้ระบบอัตโนมัติควบคุมการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้