ลิ้งค์เชื่อมต่อ

อนามัยโลกเตือน อย่ามองโควิดเป็นโรคประจำถิ่นเหมือนไข้หวัด


Moun Paris mete mask nan figi yo pou pwoteje tet yo kont COVID-19, nan moman yap pase bo kote Tou Eiffel la, Madi 21 Dec. 2021.
Moun Paris mete mask nan figi yo pou pwoteje tet yo kont COVID-19, nan moman yap pase bo kote Tou Eiffel la, Madi 21 Dec. 2021.

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประเมินว่า โควิดสายพันธุ์ โอมิครอน จะแพร่ระบาดสู่ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งในยุโรป พร้อมเตือนว่าไม่ถึงเวลาที่จะมองว่าโควิดอยู่ในระดับเดียวกับโรคประจำถิ่นเหมือนไข้หวัด ตามรายงานของรอยเตอร์

ฮานส์ คลู้ก (Hans Kluge) ผู้อำนวยการฝ่ายยุโรปขององค์การอนามัยโลก กล่าวเมื่อวันอังคารว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ในยุโรปมากกว่า 7 ล้านรายภายในสัปดาห์แรกของปีนี้ นับเป็นการเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในระยะสองสัปดาห์ ซึ่งในระดับการติดเชื้อเช่นนี้ ทางสถาบันวิจัย Institute for Health Metrics and Evaluation (IHME) ของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐวอชิงตัน ได้ประเมินว่า ประชากรในยุโรปกว่า 50% จะต้องติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ในอีก 6-8 สัปดาห์จากนี้

ผู้อำนวยการฝ่ายยุโรปขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า 50 จาก 53 ประเทศในยุโรปและในเอเชียกลาง มีผู้ติดเชื้อโควิดโอมิครอนในระดับสูง แม้ว่าปัจจุบันจะเริ่มมีหลักฐานเพิ่มขึ้นที่บ่งชี้ว่า โควิดโอมิครอนจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจส่วนบนมากกว่าช่วงปอด ทำให้มีอาการไม่รุนแรงเท่ากับโควิดสายพันธุ์อื่นๆที่ระบาดหนักก่อนหน้านี้ แต่จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันเกี่ยวกับเรื่องนี้เสียก่อน

ส่วนประเด็นที่ทางการสเปน ผลักดันให้เปลี่ยนแปลงการติดตามผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้เหมือนกับไข้หวัด เพราะความรุนแรงของโควิดโอมิครอนได้ลดลงไป ซึ่งนั่นหมายถึงสเปนจะรับมือกับโควิดโอมิครอนเหมือนกับโรคประจำถิ่นแทนที่จะเป็นการรับมือภาวะการระบาดใหญ่ในวงกว้างเหมือนแต่ก่อน

ในมุมมองของแคเธอรีน สมอลวูด (Catherine Smallwood) เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายฉุกเฉินประจำภูมิภาคยุโรปขององค์การอนามัยโลก ชี้ว่า เรายังมีสถานการณ์การระบาดที่ไม่แน่นอนอยู่มาก อีกทั้งโควิดโอมิครอนยังคงกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว ทำให้ตอนนี้ยังไม่ถึงจุดที่จะบอกว่าโควิดกลายเป็นโรคประจำถิ่นได้

(ที่มา: รอยเตอร์)

XS
SM
MD
LG