ในวงการภาพยนตร์ ผู้หญิงมักมีบทบาทเด่นในภาพยนตร์โรแมนติก คอมดี้ หรือ ดราม่า และมักไม่ได้รับโอกาสในตำแหน่งที่ผู้ชายประสบความสำเร็จในวงการเท่าที่ควร แต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากศักยภาพของผู้หญิงที่ทำลายกำแพงเหล่านั้นไปได้
ซูเปอร์ฮีโร่หญิงอย่าง "Wonder Woman" ปล่อยพลังทั้งในภาพยนตร์ และกวาดรายได้ทั่วโลกอย่างถล่มทลาย 653 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เกินกว่าทุนสร้างไป 4 เท่าตัว เป็นตัวอย่างของการผนึกกำลังของนักแสดงสาวเชื้อสายอิสราเอล 'Gal Gadot' ผู้รับบท Wonder Woman และผู้กำกับหญิง Patty Jenkins ที่ร่วมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการจอเงิน ด้วยการทุบสถิติภาพยนตร์ที่กำกับโดยผู้หญิงที่ทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
Wonder Woman ถ่ายทอดเรื่องราวของ 'ไดอาน่า' เจ้าหญิงบนเกาะสวรรค์เธอมิสซิล่า ที่ถูกฝึกฝนให้เป็นสุดยอดนักรบไร้พ่าย ก่อนโชคชะตาจะพาให้เธอออกไปจากเกาะเพื่อหวังยุติสงครามโลกที่จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นให้ได้
สิ่งที่คุณ Patty Jenkins พยายามสะท้อนออกมาในภาพยนตร์ คือ ความหลงใหลในซูเปอร์ฮีโร่หญิงอันทรงพลัง บวกกับศักยภาพในการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์แอคชั่นแนวซูเปอร์ฮีโร่ ที่ส่วนใหญ่มักเป็นโอกาสของผู้ชาย แต่ Patty เลือกใช้จุดเด่นของตัวละครที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน ถ่ายทอดหนังแอคชั่นของผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบได้
และทางออกของปัญหาไม่ใช่แค่การใช้ความรุนแรง แต่เราสามารถใช้ความรักความเข้าใจและการให้อภัย เพื่อแก้โจทย์ที่ซับซ้อนในชีวิตได้
ขณะที่ Gal Gadot นักแสดงนำผู้รับบท Wonder Woman รู้สึกโชคดีที่ได้ร่วมงานกับผู้กำกับหญิงคนนี้ ที่มองเห็นภาพของ ไดอาน่า หรือ Wonder Woman ตรงกัน และถ่ายทอดออกมาได้น่าสนใจ
2 พลังหญิงที่ผนึกกำลังในภาพยนตร์ Wonder Woman ได้พิสูจน์ให้ฮอลลีวู้ดให้เห็นว่า การทุ่มทุนสร้างภาพยนตร์ที่กำกับโดยผู้หญิงนั้นไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
และนี่ไม่ใช่ภาพยนตร์เรื่องเดียวที่จะถูกจับตามองในปีนี้ อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่นักวิจารณ์เฝ้ารอ คือ "The Beguiled" ผลงานรีเมคของผู้กำกับ Sofia Copolla ที่ส่งให้เธอเป็นผู้หญิงคนที่ 2 ในวงการภาพยนตร์โลกที่คว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมในเทศกาลหนังเมืองคานส์ ในรอบ 71 ปี
The Beguiled ดัดแปลงจากนิยายแนวกอธิค เรื่อง "A Painted Devil" ของโธมัส พี. คัลลิแนน และเคยสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วเมื่อปี 1971 เล่าเรื่องราวยุคสงครามกลางเมืองของสหรัฐฯ ที่ทหารบาดเจ็บหนักเข้าไปขออาศัยในโรงเรียนประจำสำหรับผู้หญิง ที่ภายในนั้นมีผู้หญิงทั้งสิ้น 7 คน รวมทั้งครู นักเรียน และแม่บ้าน
แต่ทหารนายนี้กลับใช้สเน่ห์หว่านล้อมพวกเธอให้อิจฉาริษยากันเอง ก่อนที่พวกเธอทั้ง 7 จะไหวตัวทันและร่วมมือกันแก้แค้นอย่างเจ็บแสบ
Sofia บอกว่าภาพยนตร์ต้นฉบับนั้น ถูกถ่ายทอดโดยมุมมองของผู้ชาย เล่าเรื่องผ่านบทบาทของทหารที่เป็นตัวละครนำ แต่เธอเลือกดัดแปลงบทภาพยนตร์เพื่อสะท้อนมุมมองของผู้หญิงแทน
นอกจากผู้กำกับหญิงแล้ว ยังได้นักแสดงระดับแม่เหล็ก ทั้ง Colin Farrell ผู้รับบท John McBurney นายทหารที่ได้รับบาดเจ็บ Nicole Kidman มารับบท Martha Farnsworth คุณครูของโรงเรียนประจำสตรี รวมทั้งนักแสดงมากความสามารถอย่าง Kirsten Dunst และ Elle Fanning
อย่างไรก็ตาม นักแสดงมากฝีมืออย่าง Nicole Kidman กลับเห็นว่า ผู้กำกับหญิงในฮอลลีวู้ดมีเพียงแค่หยิบมือที่จะได้รับโอกาส ทั้งที่มีความสามารถ เพราะเมื่อปีที่แล้ว มีแค่ 4 เปอร์เซนต์ของผู้กำกับหญิงที่ได้กำกับหนังฟอร์มใหญ่เท่านั้น
ซึ่งอาจต้องฝากความหวังให้ ความสำเร็จของ Sofia ในเทศกาลหนังเมืองคานส์ และภาพยนตร์ Wonder Woman ที่จะเป็นใบเบิกทางที่ดีสำหรับผู้หญิงที่ก้าวเข้าสู่บทบาทที่ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิมในฮอลลีวู้ดได้ในอนาคตอันใกล้