สำนักข่าววอลสตรีทเจอนัล (Wall Street Journal) ร่วมมือกับสถาบันดรัคเกอร์ (Drucker Institute) จัดอันดับบริษัทอเมริกันที่มีการบริหารจัดการดีที่สุด 250 บริษัท ประจำปี ค.ศ. 2020 ซึ่งมีบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ติดอันดับจำนวนมาก
โดยในปีนี้ บริษัทคอมพิวเตอร์ ไมโครซอฟต์ (Microsoft Corp.) แซงบริษัทอีคอมเมิร์ช แอมะซอน (Amazon.com) ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยสามารถทำคะแนนได้ดีในทั้ง 5 ส่วนที่นำมาพิจารณาในการจัดอันดับโดยสถาบันดรัคเกอร์ ของมหาวิทยาลัยแคลร์มอนต์ แกรดูเอต (Claremont Graduate University) ได้แก่ ความพึงพอใจของลูกค้า ความใส่ใจและพัฒนาพนักงาน นวัตกรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม และความเข้มแข็งทางการเงิน
ทั้งไมโครซอฟต์และแอมะซอนต่างได้ประโยชน์จากการทำงานที่บ้าน เนื่องจากคนอเมริกันจำนวนมากต้องใช้ซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟต์และระบบคลาวน์ของแอมะซอนในการเชื่อมต่อกับที่ทำงานในรูปแบบต่าง ๆ
ถึงกระนั้น ปีนี้แอมะซอนต้องหล่นลงมาอยู่ที่อันดับสี่ หลังจากถูกบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่สองแห่ง คือ แอปเปิล (Apple) และบริษัทไอบีเอ็ม (International Business Machines Corp - IBM) แซงขึ้นไปอยู่ที่อันดับสองและสามตามลำดับ โดยมีอัลฟาเบ็ต (Alphabet Inc) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล (Google) ตามมาที่อันดับห้า จากบริษัทที่นำมาพิจารณาทั้งหมด 886 บริษัท
แซคคารี เฟริสต์ ผู้อำนวยการบริหารของสถาบันดรัคเกอร์ กล่าวว่า บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เหล่านี้ต้องเผชิญกับปัญหาหลายอย่างทั้งในส่วนของผู้บริโภคและภาครัฐตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา รวมถึง คำถามเรื่องความปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ การสืบสวนเรื่องการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด และการเรียกร้องให้มีการควบคุมทางดิจิทัลอย่างเข้มงวดในปีเลือกตั้ง แต่ก็สามารถบริหารจัดการปัญหาเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับไมโครซอฟต์ที่อยู่ในอันดับสูงสุดของปีนี้ สถาบันดรักเกอร์ระบุว่าได้คะแนนสูงในส่วนของนวัตกรรม ทั้งจากระบบซอฟแวร์ประชุมออนไลน์ ระบบคลาวน์ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์
ส่วนบริษัทแอมะซอน ตกจากอันดับหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคะแนนที่ตกลงในส่วนของความพึงพอใจของลูกค้า รวมทั้งการถูกวิจารณ์เรื่องการปฏิบัติต่อพนักงานในช่วงการระบาดของโควิด-19
อ่านรายละเอียดการจัดอันดับบริษัทบริหารจัดการดีที่สุดประจำปี ค.ศ. 2020 ได้ที่เว็บไซต์ของสถาบันดรัคเกอร์ www.drucker.institute