วันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมาเป็นโอกาสครบรอบ 10 ปีของการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิในประเทศไทยและหลายประเทศของเอเซียซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปรวมทั้งสิ้นราว 230,000 คน โดยส่วนใหญ่คือ 130,000 คนอยู่ในจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซีย
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านการลดความเสียหายจากภัยธรรมชาติขององค์การ ESCAP ได้ชี้ว่าประเทศต่างๆ ในเอเซียยังต้องใช้เงินลงทุนอีกจำนวนมากเพื่อให้ระบบเตือนภัยล่วงหน้าเสร็จสมบูรณ์
ดร. ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันภัยพิบัติธรรมชาติของไทยกล่าวว่า ในหลายจังหวัดภาคใต้ของไทย ศูนย์เตือนภัยราว 100 แห่งที่มีอยู่ขาดการดูแลเอาใจใส่และบำรุงรักษา และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องก็ยังไม่รู้วิธีใช้ระบบด้วย
ส่วนพญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ของไทยได้เตือนเช่นกันว่าตำรวจและเจ้าหน้าที่ในระดับท้องถิ่นของไทยยังไม่พร้อมในเรื่องการชันสูตรและระบุตัวผู้เสียชีวิตหากมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต เพราะความรู้ในเรื่องนี้จะค่อยๆ เลือนหายไปจากการที่เจ้าหน้าที่ถูกโยกย้ายหรือเกษียณจากงาน
จนถึงขณะนี้ได้มีการลงทุนกว่า 400 ล้านดอลลาร์ไปแล้วในระบบเตือนภัยล่วงหน้าใน 28 ประเทศของเอเซีย อย่างไรก็ตามยังไม่มีแผนงานเพื่อให้การศึกษาและสร้างความเข้าใจสำหรับประชาชนเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากระบบเตือนภัยดังกล่าว